xs
xsm
sm
md
lg

6 ประโยชน์ "กิมจิ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประโยชน์ของการรับประทาน "กิมจิ" มีอะไรบ้าง
สารอาหารที่ถูกอัดแน่นในผักที่นำมาทำกิมจิ ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 6 แร่ธาตุ และกรดอะมิโนมากกว่า 34 ชนิด ซึ่งสารอาหารเหล่านั้น อาจมีปริมาณมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีกระบวนการทำ เครื่องปรุง ของแต่ละสูตร แต่โดยรวมแล้ว การรับประทานกิมจิในปริมาณที่เหมาะสมอาจเข้ามาช่วยปรับปรุงสุขภาพของเราให้ดีขึ้นได้ ดังนี้

เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
การรับประทานผักที่ผ่านการหมักดอง ทำให้เกิดการก่อตัวของ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ซึ่งเป็นแบคทีเรียในเชิงบวกที่ดีต่อสุขภาพ จากการศึกษากับหนูทดลองที่ได้รับการฉีดแลคโตบาซิลลัสชนิด Plantarum ที่ถูกค้นพบในกิมจิจำนวนมาก พบว่าระดับของ Tumor necrosis factor (TNF)-alpha ที่สร้างความอักเสบของภายในร่างกายลดลง จึงทำให้ไม่เข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันมีการทำงานเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ

สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น
จากการศึกษาผู้เข้าร่วมทดสอบจำนวน 100 คน ที่รับประทานกิมจิเข้าไป 15-210 กรัมต่อวัน ผลสรุปออกมาว่าระดับน้ำตาลในเลือด และระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ที่เชื่อมโยงกับการก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคหัวใจนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
ด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ในกิมจิ และแบคทีเรียชนิดดีอย่างแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) สามารถเข้าไปมีส่วนช่วยสร้างให้ระบบย่อยอาหารมีการทำงานที่ดีมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังอาจปกป้องคุณจากโรคท้องร่วง ท้องผูก และปรับปรุงสุขภาพในช่องทางเดินอาหารของคุณให้มีความสมดุลยิ่งขึ้น

บรรเทาอาการอักเสบ
จากการตรวจสอบสารอาหารในกิมจิ นักวิจัยได้พบสารประกอบชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า HDMPPA ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในเรื่องของการต้านการอักเสบ และบำรุงหลอดเลือดให้มีการไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ถึงอย่างไรยังคงต้องมีการวิเคราะห์ ศึกษาเพิ่มเติมถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสารประกอบนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง แต่นอกจากสาร HDMPPA ในกิมจิยังมีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ที่กล่าวมาข้างต้นอาจสามารถเข้าไปต่อต้านอาการอักเสบที่จะเกิดขึ้นแก่อวัยวะ หรือการทำงานของระบบภายในของเราได้เช่นเดียวกัน

ลดน้ำหนัก
การรับประทานผัก หรืออาหารหมักดอง มักมีตัวเลขของแคลอรี่ที่ต่ำมาก จึงอาจทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปรู้สึกราวกับว่าน้ำหนักตัวนั้นลดลง แต่ยังไงก็ตามการรับประทานกิมจิควรทานคู่กับเมนูอื่น ๆ ที่มีสารอาหารเพียงพออย่างครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เพื่อเป็นการเพิ่มพลังงานในร่างกายของเราในแต่ละวัน และควรออกกำลังกายอย่างเป็นประจำต่อเนื่อง โดยคุณสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้จากนักโภชนาการ หรือเทรนเนอร์ควบคู่กันไปด้วยก็ย่อมได้

ปรับปรุงระบบความจำ
ในการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองกับหนูทดลอง โดยให้หนูบริโภคผัก หรือวัตถุดิบที่นำมาทำกิมจิ ซึ่งพบว่าพวกมันมีการเกิดระบบความจำ และทักษะที่ดีขึ้น จึงทำให้นักวิจัยได้ดำเนินการพัฒนา และวิเคราะห์ไปถึงการนำมารักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ในอนาคต

ผลข้างเคียงของ "กิมจิ" ต่อสุขภาพ
ถึงจะประโยชน์มากมายต่อสุขภาพดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่คุณทราบหรือไม่ว่าการทานกิมจิก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณได้เช่นกัน เนื่องจากอาหารหมักดอง มักประกอบไปด้วยเกลือ หรือโซเดียมอยู่จำนวนมาก ทำให้ผู้ที่รับประทานเกินกว่าปริมาณ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน อาจได้รับความเสี่ยงที่จะทำให้กระเพาะอาหาร ลำไส้ของคุณแปรปรวน และเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากคุณมีความประสงค์ต้องการรับประทานกิมจิอย่างปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการทานแบบสดๆ และหันมารับประทานควบคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือนำมาปรุงในเมนูอื่นๆ ทดแทน

นอกจากนั้นแล้ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจ ควรขอรับคำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการรับประทาน
กำลังโหลดความคิดเห็น