ระเบียบคณะกรรมการ #กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา ว่าด้วยการบริหาร ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานและการจ่ายเงินช่วยเหลือกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๖ และ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
ข้อ ๒๙ ให้ผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาตามข้อ ๒๗ มีสิทธิได้รับ #เงินทุนเลี้ยงชีพ เป็นรายเดือน โดยให้ได้รับเป็นระยะเวลาสองเท่าของเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพ ตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(๑) มีเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพตั้งแต่ ๑ เตือน แต่ไม่ถึง ๔๘ เดือน ให้ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพในอัตราเดือนละ ๙,๐๐๐ บาท
(๒) มีเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพ ตั้งแต่ ๕๘ เดือน แต่ไม่ถึง ๙๖ เดือน ให้ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพในอัตราเดือนละ ๑๒,๐๐๐ บาท
(๓) มีเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพ ตั้งแต่ ๙๖ เตือน แต่ไม่ถึง ๑๔๔ เตือน ให้ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพในอัตราเดือนละ ๑๔.๓๐๐ บาท
(๔) มีเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพ ตั้งแต่ ๑๔๔ เตือน แต่ไม่ถึง ๑๙๒ เดือน ให้ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพในอัตราเดือนละ ๑๗,๘๐๐ บาท
(๕) มีเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพ ตั้งแต่ ๑๙๒ เดือน แต่ไม่ถึง ๒๔๐ เดือน ให้ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพในอัตราเดือนละ ๒๑,๔๐๐ บาท
(๖) มีเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพ ตั้งแต่ ๒๔๐ เตือน แต่ไม่ถึง ๒๘๘ เดือน ให้ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพในอัตราเดือนละ ๒๘,๕๐๐ บาท
(๗) มีเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพ ตั้งแต่ ๒๘๘ เตือนขึ้นไป ให้ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพในอัตราเดือนละ ๓๕,๖๐๐ บาท
.
ที่มาของเงินกองทุน มีดังต่อไปนี้
(1) เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้
(2) เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
(3) เงินที่สมาชิกรัฐสภาส่งเข้ากองทุนในอัตราที่คณะกรรมการกำหนด
(4) เงินที่โอนมาจากกองทุนสงเคราะห์ผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาตามระเบียบรัฐสภาว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์ผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๔๓
(5) เงินและทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทุน
(6) เงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการบริจาค
(7) ดอกผลของเงินกองทุน
.
ซึ่งรายได้ของกองทุนไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
.
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ LIRT : คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร