วันที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบประชาชนและภาคธุรกิจเร่งด่วน ทั้งมาตรการใหม่และขยายมาตรการเดิมที่จะสิ้นสุดในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2565
.
1. ขยายเวลาให้ส่วนลดราคาแอลพีจี ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เกิน 100 บาทต่อราย/เดือน ต่อไปอีก 3 เดือน ถึงเดือนก.ย.65 ส่วนผู้มีรายได้น้อยซึ่งถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่จะได้รับส่วนลดการซื้อก๊าซหุงต้มจำนวน 100 บาทต่อราย 3 เดือน
.
2. ตรึงราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวี 15.59 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับเอ็นจีวีภายใต้โครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน สำหรับแท็กซี่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.-15 ก.ย.65
.
3. กำหนดกรอบการขายปลีกแอลพีจี 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.
.
4. มาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยว เอกชนนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว อบรม สัมมนา จัดงาน ในเมืองหลักหักภาษีได้ 1.5 เท่า เมืองรองหักภาษีได้ 2 เท่า (ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2565)
.
5. การช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นเกิน 35 บาทต่อลิตรในสัดส่วนครึ่งหนึ่งของราคาที่เกินเพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบมากเกินไป และคงค่าการตลาดหน้าปั๊มไว้ที่ 1.4 บาทต่อลิตร
.
6. ดึงกำไรจากโรงกลั่นน้ำมัน นำส่งกำไรจากค่าการกลั่นส่วนหนึ่งเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อลดภาระค่าน้ำมันให้กับประชาชนทั้งดีเซลและเบนซินในช่วง 3 เดือน ก.ค.-ก.ย. ไปก่อน อันนี้เป็นการขอความร่วมมือก็ต้องขอขอบคุณบรรดาสถานประกอบการที่ให้ความร่วมมือต่อเรื่องนี้
.
7. การให้ความช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน
.
8. ขอความร่วมมือการประหยัดพลังงานทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ และภาคขนส่ง