ห่วงคดีมีปัญหา! คู่กรณีทำร้ายพ่อแม่ ไวท์-ณวัชร์ ใช้ค้อนทุบหัวพ่อ-ตบแม่ เป็นลูกขรก.ยธ.ระดับสูง
.
งานนี้สงสัยพ่อใหญ่มาก! หลังไวท์ ณวัชร์ ดาราหนุ่ม ออกมาแถลงข่าวว่า คุณพ่อคุณแม่ถูกทำร้ายร่างกายขณะขับรถ เหตุการณ์คือมีรถมาจี้ท้าย แล้วพยายามขับแซงขึ้นไปเพื่อให้คุณพ่อขับชน จนต้องตองลงมาเคลียร์ โดยคุณพ่อของไวท์ถูกค้อนทุบศีรษะบาดเจ็บและคุณแม่ถูกตบ พร้อมกับแย่งกระเป๋าไปเทของทิ้ง จากนั้นถอยรถชนรถ สุดกร่างไม่กลัวกฎหมาย ซึ่งทนายความยอมรับว่าหนักใจ เพราะคู่กรณีเป็นลูกบิ๊กข้าราชการยุติธรรม เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายแล้วลอยนวล หลังจากไวท์ประกาศเรื่องลงโซเชียล คู่กรณีก็ยังมาต่อปากต่อคำ แล้วมวยถูกคู่ก็บังเกิด เมื่อดีเจภูมิไปฟาดหนัก แต่คู่กรณีไวท์ก็ปากแจ๋วหยาบคายใส่ งานนี้เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ให้รอชมอย่างใกล้ชิด!
.
จากกรณีที่ครอบครัวของ ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม ที่ขับรถไปทำธุระแถวถนนราชพฤกษ์ ระหว่างทาง มีรถเก๋งขับปาดหน้า และไล่กันมากับรถพ่อของตน กระทั่งต้องจอดรถมีปากเสียงกัน โดนทำร้ายร่างกายจากเหตุการณ์ ฝ่ายคู่กรณีมีการทำร้ายร่างกายแล้วลงจากรถมาทำร้ายร่างกายและทรัพย์สิน เตะ กระทืบรถ และพ่อของไวท์ได้รับบาดเจ็บจากคู่กรณีเอาค้อนตีหัว คุณแม่ถูกตบหน้าอย่างแรงจนหูอื้อ จากนั้นคู่กรณีก็ได้ถอยรถมาชนรถพ่อตนจนเกิดความเสียหาย ก่อนที่จะขับรถหนีไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา
.
วานนี้ (1 ก.ค.) ไวท์ ณวัชร์ และคุณพ่อ-คุณแม่ พร้อมนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความส่วนตัวก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางช่วงคุณพ่อ คุณแม่ และน้องไวท์ ถึงก้บร้องไห้ออกมา
.
โดยคุณพ่อ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นให้ฟังว่า พอตนออกจากปั๊มน้ำมัน ตนก็เห็นรถของคู่กรณีออกตามมา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน แต่สักพักเขาก็เริ่มขับจี้ตูดแบบติดๆ ประมาณ 5 นาที ตนก็พยายามขับหนี แต่เขาก็เข้ามาปาดหน้าแล้วเบรกเหมือนจะให้ตนชนท้าย ซึ่งตนหลบทันไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขาทำอีกครั้งที่ 2 คราวนี้ตนหลบไม่ทันเลยชนรถเขา
.
จากนั้นคู่กรณีก็เดินลงรถมา ตนก็เลยลดกระจกเพื่อพูดคุยกับเขา แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ตนก็โดนของแข็งตรงศรีษะ (แถวๆ ขมับด้านซ้าย) ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นค้อน จากนั้นตนก็เลยต่อยเขากลับจนเขาเลือดไหล
.
ซึ่งพอตนเห็นคู่กรณีเลือดไหลก็เลยหยุด แต่ทางฝั่งเขาไม่หยุด ยังคงโวยวาย เอาเท้าถีบรถตน แล้วก็เอาของในรถไปโยนทิ้ง จากนั้นก็บิดกุญแจแล้วตบหน้าภรรยาของตน (แม่ของไวท์) วินาทีนั้นตนแค้นมาก อยากจะไปทำคืน แต่กลัวลูกชาย (ไวท์) จะเสื่อมเสียชื่อเสียง (เสียงสั่น) ตนเลยปล่อยเขาไป แต่เขาก็ไม่จบ ก่อนจะขับหนีไป เขาถอยหลังมาชนรถตนอย่างแรง จนรถไปกระแทกบริเวณเอวของลูกน้องจนเขียว โดยเหตุการณ์นี้กินเวลาประมาณ 10 กว่านาที
.
ตนอยากรู้ว่าเขาทำตนทำไม ตนไม่ได้ไปปาดหน้าเขา หรือทำอะไรเขาเลย ถ้าตนเจอเขา ตนจะถามเขาว่า “เขามาทำแบบนี้ทำไม เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชาย คุณต้องออกมาพูดความจริง” (ร้องไห้)
.
คุณพ่อบอกอีกว่า คู่กรณีเหมือนคนบ้า อยู่ๆ ก็เข้ามาทำร้ายตน ขนาดแฟนเขามาด้วย ยังวิ่งหนีร้องไห้ไปหลบอยู่ที่รถอีกคัน ตนยืนยันตรงนี้เลยว่าไม่ได้มีการทะเลาะกันมาก่อน แล้วก็ไม่รู้จักเขาด้วย ซึ่งหากตนทำจริงจะยอมรับผิดในเหตุการณ์นี้เลย โดยตอนนี้ศรีษะตนก็ยังปวดๆ มึนๆ หัวอยู่ หลังจากที่เมื่อวานนี้กินยาพาราไป
.
ด้านคุณแม่ของน้องไวท์ เสริมว่า ตอนที่สามีไปทะเลาะวิวาทอยู่กับคู่กรณี ตนก็ไปช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกัน เพราะทางคู่กรณีไม่ได้ใส่แมสก์ด้วย โดยตนได้พูดกับเขาไปว่า “พี่ไปทำอะไรให้น้องหรอ ถึงได้โมโหขนาดนี้ ถ้าแฟนพี่ทำอะไรไม่ดี พี่ขอโทษนะ” แต่เขาไม่ฟังตนเลย แล้วก็หันไปหยิบกระเป๋าของตนที่อยู่ในรถไปโยนทิ้ง แล้วก็มาตบหน้าตนซึ่งค่อนข้างแรงเพราะหูอื้อไปเลย ตอนนั้นตนงงมากว่าทำไมถึงโดนตบ
.
ในส่วนของ น้องไวท์ บอกว่า ตอนที่ทราบเรื่องตนเสียใจมาก เขาทั้งตบหน้าแม่ตน แล้วก็เอาค้อนตีหัวพ่อตน (ร้องไห้) มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น แถมตนรู้มาอีกว่าคู่กรณีเป็นลูกข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ยังไงตนก็ขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวตนด้วย และใครที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น รบกวนส่งคลิปหรือหลักฐานที่สำคัญมาให้ตนหน่อย
.
ถามว่าเขาได้ติดต่อกลับมาไหม เขามีคอมเมนต์ในไอจีตน และส่งข้อความมาเหมือนข่มขู่คุกคาม ซึ่งยอมรับว่าตนกลัวมาก
.
ส่วนที่ทางคู่กรณีมีการบอกว่ารู้จักเพื่อนของเพื่อนตน ตนบอกตรงๆ เลยว่า ตนไม่เคยเจอเขา และไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลย ซึ่งถึงเขาจะรู้จักหรือไม่รู้จักเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำใครก็ได้ ตนจึงขอดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่ขอไกล่เกลี่ย เพื่อที่เขาจะไม่ไปทำแบบนี้กับใครอีก
.
ทางด้านทนายความเผยว่า ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดี โดยเชื่อว่าฝั่งของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ และเขาต้องถูกลงโทษ ส่วนที่ทางเขามั่นใจว่าจะชนะคดีก็ขอให้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ซึ่งข้อหาที่จะแจ้งความ มี 3 ข้อหา คือ การขับรถประมาทหวาดเสียว , การทำร้ายร่างกาย และการทำให้เสียทรัพย์
.
แต่ตนเพิ่งได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทางคู่กรณีมีการใช้ค้อนเป็นอาวุธในการทำร้ายในอวัยวะสำคัญ (หัว) ก็อาจจะเพิ่มข้อหาพยายามฆ่าได้อีกหนึ่งข้อหา ซึ่งกำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดในส่วนนี้อยู่ โดยโทษค่อนข้างหนัก เพราะผู้ถูกกระทำอาจถึงแก่ชีวิตได้
.
อย่างไรก็ตาม การที่คู่กรณีเป็นลูกข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ทางทีมทนายก็มีความกังวลระดับหนึ่งในการทำคดีว่าจะได้ความยุติธรรมไหม จึงขอวอนฝากสื่อให้ช่วยติดตามด้วย
.
ทั้งนี้ หากคู่กรณีมีการอ้างว่าตัวเองป่วย ตนก็มีหลักฐานว่าเขามีสติ พูดจารู้เรื่อง จะใช้ตรงนี้มาอ้างไม่ได้ มันฟังไม่ขึ้น แล้วตนก็ทราบมาอีกว่าคู่กรณีเคยทำร้ายร่างกายผู้หญิงมาก่อน ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นความผิดซ้ำซาก ไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย
.
อย่างไรก็ตามทางทีมทนายความ ได้ฝากประชาสัมพันธ์ถึงคนขี่มอเตอร์ไซค์ที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีแดง ช่วยติดต่อมาด้วย เพราะเขาเป็นคนมาช่วยเหลือคุณพ่อ และได้ขับรถตามคู่กรณีไป เขาจึงเป็นอีกหนึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใน IG ของ ไวท์ ณวัชร์ https://www.instagram.com/ww.nawat/?hl=th ในโพสต์ที่เจ้าตัวแปะภาพที่มีข้อความเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางการให้กำลังใจจำนวนมากของเพื่อนพี่น้องคนบันเทิง รวมถึงแฟนคลับก็ได้มีแอคเคาท์หนึ่ง โผล่เข้ามาแสดงความคิดเห็นหยาบคาย ข้อความที่พิมพ์เป็นไปในลักษณะว่าจะเป็น "คู่กรณี" ลูกข้าราชการใหญ่รายนั้น โดยโพสต์รีพลายดังกล่าวเขียนว่า...
.
"เล่าเข้าข้างตัวเองไม่ตุ๊ดกว่าหรอวะ พ่อแม่มึงก็ใช่ย่อยนะ เอากุญแจมาทิ่มหน้ากูอะ ปาดหน้าเบรคให้กูชน และพ่อมึงก็ขับจะชนคนอื่นอีกเป็น10คัน พอกูตามทำกลับ เสือกร้องเป็นหมา เป็นพ่อแม่คนสะเปล่าแก่แต่สมองหรอ? ที่กูซัดหน้ามันไม่ต้องคุยแล้วขับรถกันอย่างนี้"
.
แอคเคาท์ดังกล่าว ยังโพสต์รีพลายอีกอันอีกว่า "นี้พึ่งมาตั้งใจอ่านนะครับที่เขียน ระวังแจ้ง+พูดความเท็จนะครับ มันต่างจากกล้องหน้ารถโดนสิ้นเชิง เป็นดาราและพยายามฉลาดหน่อยครอบครัวมึงก็ไม่เบา ตัวมึงเพื่อนมึงก็ไม่เบา สังคมมันกลมเพื่อนของเพื่อนกูทั้งนั้น #ทำมาทำกลับไม่โกง"
.
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า เข้ามาคอมเมนต์ว่า “ขยะสังคม” เป็นเหตุให้คู่กรณีของไวท์ เดือดมากจนต้องเข้ามาเปิดฉากสงครามหลังคีย์บอร์ดกันร้อนแรงมาก โดยรีพลายตอบกลับจากแอคเคาท์เดิม ตอบอย่างหยาบคายว่า
.
“โห มึงเองก็ไม่ต่างกันนะ ความเหี้-อะ”
.
ทำเอาชาวโซเชียลคนอื่นเข้ามาตอบกลับแทนดีเจภูมิ มากมาย เพราะนอกจะเข้ามาคอมเมนต์หยาบคายแล้วยังท้าทายอีกด้วย นอกจากนี้ ยังด่ากราด หยาบคาย ด่าถึงพ่อถึงแม่คนที่มาแสดงความคิดเห็นเห็นใจหนุ่มไวท์อย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ทั้งสิ้