🚩พัสดุจากการสั่งออนไลน์
เด็กๆที่บ้านหลายคนชอบเล่นกล่องพัสดุจากการสั่งออนไลน์ของคุณพ่อคุณแม่ แต่อาจเสี่ยงได้รับเชื้อโควิดได้เพราะเชื้อไวรัสโควิดที่อยู่บนกระดาษแข็งสามารถอยู่ได้นาน 24 ชั่วโมง การฉีดแอลกอฮออล์ทิ้งไว้ก่อนนำกล่องพัสดุเข้าบ้าน ล้างมือทุกครั้งหลังจากสัมผัสพัสดุ ทิ้งกล่องลังหรือแยกไว้ให้ห่างจากเด็กๆ ลดโอกาสเสี่ยงได้
🚩 เงินทอนจากการชื้อของ
เงินทอนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เพราะเชื้อไวรัสโควิดที่อยู่บนเหรียญอยู่ได้ 4 ชั่วโมง
ธนบัตรอยู่ได้ประมาณ 4 วัน การโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์ เตรียมเงินให้พอดีหรือให้ทิปไปเลยค่ะ
อีกวิธีสำหรับแม่ๆ คือใช้ถุงซิปล็อก Antibacterial ที่ปกติเอาไว้ใส่อาหาร เปลี่ยนมาใส่เงิน
สำหรับไปซื้อของ ได้เงินทอนก็ใส่ในถุงพร้อมฉีดฆ่าเชื้อได้สะดวก เป็นทางเลือกที่ดีเลยค่ะ
ลดโอกาสเสี่ยงในการสัมผัสกับเชื้อโรคได้
🚩ถุงพลาสติกจากการสั่งอาหาร delivery
ถุงพลาสติก แก้วน้ำพลาสติก กล่องพลาสติก ที่ผ่านการสัมผัสจากหลายๆคนก่อนมาถึงมือเรานั้น อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อได้ เชื้อไวรัสโควิดที่อยู่พลาสติกสามารถอยู่ได้ 3-7 วัน หลังการสัมผัสควรล้างมือด้วยสบู่หรือฉีดแอลกอฮอล์ หากเป็นภาชนะพลาสติกใส่อาหารอย่าลืมเปลี่ยนภาชนะก่อนนำให้เด็กๆ
🚩เนื้อสัตว์ อาหารสด ที่ซื้อมาจากตลาด
เชื้อไวรัสโควิดที่อยู่น้ำสามารถอยู่ได้ 4 วัน หลังกลับจากตลาดให้นำเนื้อสัตว์ อาหารสดที่ซื้อมาล้างให้สะอาดก่อนนำไปจัดเก็บ ล้างมือหลังสัมผัส ทำอาหารปรุงให้สุกทุกครั้งก่อนรับประทาน เพราะหากเชื้อไวรัสโควิดอยู่ในตู้เย็นหรืออุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส อาจอยู่ได้ถึง 1 เดือน
🚩ตระกร้าเสื้อผ้าที่ใส่ออกไปข้างนอก
เสื้อผ้าที่ใส่ออกไปข้างนอก หลังกลับเข้าบ้านควรรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดทันที ก่อนเข้าไปกอดเด็กๆ เพราะเชื้อไวรัสโควิดที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าสามารถอยู่ได้ 8-12 ชั่วโมง รวมถึงตระกร้าเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ควรวางไว้ห่างมือเด็กและล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัส
🚩ที่จับประตู ลูกบิดประตูบ้าน
ทุกครั้งที่คุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน แล้วเผลอไปจับประตูบ้าน ลูกบิดประตู ก่อนล้างมือ อาจทำให้ลูกเสี่ยงจากการมาจับต่อได้ เพราะเชื้อไวรัสโควิดที่บนเหล็ก สแตนเลสสามารถอยู่ได้ 3-7 วัน ก่อนและหลังสัมผัสควรล้างมือ และใช้แอลกอฮอล์ หรือ สบู่ทำความสะอาดบ่อยๆ
🚩หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่ใช้แล้ว
หน้ากากอนามัยที่ใส่แล้ว ควรทิ้งทันทีไม่วางไว้ตามที่ต่างๆของบ้าน เพราะอาจนำเชื้อมาติดตามพื้นผิวต่างๆของบ้านได้ เนื่องจากด้านหน้าของหน้ากากอนามัย อาจมีละอองฝอยจากการไอ จามจากผู้ติดเชื้อมาติดได้ และหากเด็กๆเอามือไปสัมผัสเชื้อไปโดนบริเวณดวงตา จมูก ปาก เท่ากับเอาเชื้อเข้าสู่ร่างกาย หากใช้เป็นหน้ากากผ้า ควรรีบนำไปแช่ในน้ำยาซักผ้า หรือน้ำฆ่าเชื้อต่างๆ
ที่มา
- สสส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
- กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร
- ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
