มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า ที่อยู่ในอำนาจ มา 10 ปี ด้วย วัย 64 ปี จะมีอายุครบ 65 ปีในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งตามกฎหมายของเมียนมาระบุให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และรองผู้บัญชาการเกษียณอายุราชการเมื่อมีอายุครบ 65 ปี
.
ในขณะนี้ถูกจับตามอง อีกครั้ง หลังจากที่นำกองทัพ ยึดอำนาจนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพม่า ในเช้าวันนี้ 1 ก.พ. 64
.
ก่อนหน้านี้ กองทัพพม่า ก็ได้แสดงจุดยืนหนุนพรรคยูเอสดีพี ซึ่งประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และกล่าวหาว่าพรรคเอ็นแอลดี ของ ออง ซาน ซู จี ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด
.
ที่ร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อทุจริตผลคะแนน ซึ่งทั้งนี้ มีการระบุจากสื่อต่างชาติหลายสำนักว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของกองทัพเมียนมา อาจอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
.
มิน อ่อง หล่าย ที่คนไทยรู้จักดี ในฐานะเป็น บุตรบุญธรรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ผู้ล่วงลับ เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ได้เผยข้อมูลถึงสาเหตุที่พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ขอเป็นบุตรชายบุญธรรมของ พล.อ. เปรม
.
ในปี 2555 ได้เข้าพบ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่บ้านสี่เสาฯ เป็นครั้งแรก และขอเป็นลูกบุญธรรมของ ป๋าเปรม เพราะรู้สึกว่า เหมือนพ่อของตนเอง เพราะอายุห่างจากพ่อเพียง 1 ปี โดยพ่อได้เสียชีวิตเมื่อปี 2545 จากนั้นทุกปี ก็จะมาหา พล.อ. เปรม และจะมาในช่วง เดือนสิงหาคม เพื่อมาอวยพร วันเกิด อีกทั้งยังประทับใจคำสอน และคำพูดต่าง ๆ ของพล.อ. เปรม เกี่ยวกับเรื่องการเมือง
.
พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่ปี 2554 สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันชาติแห่งประเทศพม่า ผ่านการเป็นผู้บัญชาการรัฐมอญ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกรมทหารภาคสามเหลี่ยมในรัฐฉาน เป็นผู้บัญชาการกองยุทธการพิเศษที่ 2 หน่วยบัญชาการทหารภาครัฐฉาน และรัฐกะเหรี่ยง และเสนาธิการร่วมกองทัพพม่า