ประโยชน์ของอะโวคาโดที่มีต่อสุขภาพ
1.ช่วยลดน้ำหนัก
เนื่องจากในอะโวคาโดมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ มีน้ำตาลต่ำ มีโปรตีนสูง และมีไฟเบอร์สูงถึง 14 กรัม จึงทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น ทำให้เราไม่ต้องการรับประทานอาหารอื่นๆ อีกในช่วงเวลานั้นๆ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากลดน้ำหนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับผู้ที่ควบคุมแคลอรีอยู่ควรบริโภคแต่พอดี เพราะอะโวคาโดให้พลังงานสูงอยู่เหมือนกัน โดย 100 กรัมนั้นให้พลังงานสูงถึง 160 แคลอรีเลยทีเดียว
2.ช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือด ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและโรคหัวใจวาย
ในอะโวคาโด มีไขมันชนิดดี (HDL-cholesterol) สูงถึง 15 กรัม มีคุณสมบัติในการช่วยลดไขมันเลว (LDL-cholesterol) ในหลอดเลือด จึงช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และโรคหัวใจวายได้
3.ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
มีผลวิจัยว่าการรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำ จะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งได้ เนื่องจากอะโวคาโดมีสารที่ช่วยบำรุงและเพิ่มออกซิเจนในเลือด อีกทั้งยังช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายให้ได้รับสารอาหารดีๆ ที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
4.ต้านอนุมูลอิสระ
ไขมันในอะโวคาโด สามารถช่วยดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ ที่เป็นตัวช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
5.ลดความดันโลหิตสูง
จากการวิจัยพบว่า หากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากพอจะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งในอะโวคาโด 100 กรัม มีโพแทสเซียมสูงถึง 14 เปอร์เซ็นต์
6.บำรุงสมอง
เพราะในอะโวคาโดมีกรดโอเลอิก (Oleic acid) ที่มีความสำคัญต่อระบบประสาทและสมองด้วยนั่นเอง
7.มีส่วนช่วยบำรุงและรักษาดวงตา
ในอะโวคาโด มีสารลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางดวงตาหลายชนิด เช่น โรคต้อกระจก โรคจุดรับภาพเสื่อม เป็นต้น
หมายเหตุ : ไม่ควรรับประทานอะโวคาโดที่เป็นผลดิบ เนื่องจากมีสารแทนนินในปริมาณมากและมีรสขม หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากอาจจะทำให้ปวดศีรษะได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานผลสุกจะดีกว่า อีกทั้งอะโวคาโดมีปริมาณแคลอรีสูง ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม