น้ำตาล, เบาหวาน, น้ำตาลทราย
SHARE
SHARE
line-icon
SHARE
น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลซูโครส…น้ำตาลยอดฮิตของมนุษย์
น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลซูโครส เป็นน้ำตาลที่กินกันบ่อยที่สุด มีความหวานสัมพัทธ์เท่ากับ 100 พบมากที่สุดในอ้อย น้ำตาลปีบ น้ำตาลโตนด น้ำตาลหัวบีตรูท และผลไม้ที่มีรสหวานเกือบทุกชนิด
วงจรน้ำตาลทราย ซูโครส ย่อยอย่างไรได้สุขภาพ
ศาสตราจารย์ ศราวุติ จิตรภักดิ์ ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า
เมื่อกินอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลซูโครส ร่างกายจะย่อยน้ำตาลซูโครสโดยใช้เอนไซม์ซูเครส (Sucrase) ที่มีความจำเพาะจากลำไส้เล็ก จนได้น้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟรักโทส จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการดูดซึมและเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานสะสม เช่น ไกลโคเจนและไขมัน เหมือนกับน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟรักโทส
อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต อธิบายไว้ในบทความ น้ำตาลไม่หวาน 2 ยิ่งหวานยิ่งป่วยมาก ในคอลัมน์ ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2544 สรุปว่า
เมื่อเรากินน้ำตาลซูโครสปริมาณมากเกินไป น้ำตาลนี้จะกลายเป็นโปรตีนกลุ่มหนึ่งที่เราเรียกว่า ไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งจะมีลักษณะข้นๆใสๆเหมือนน้ำมูก และน้ำตาลซูโครสมักไปเกาะอยู่ตามอวัยวะสำคัญๆของร่างกาย เช่น ตับ สมอง เป็นต้น ทำให้อวัยวะที่น้ำตาลซูโครสไปเกาะนั้นอ่อนแอลง ทำงานไม่ได้ จึงเกิดโรคต่างๆตามมา ทั้งเบาหวาน โรคอ้วน หัวใจ ความดันโลหิตสูง
อ่านเพิ่มเติม
คู่มือชะลอ ความเสื่อม จากการบริโภคน้ำตาล
SUPER HERB : ลดระดับน้ำตาลในเลือด
น้ำตาลทราย, น้ำตาล, เบาหวาน
How to Eat: น้ำตาลทราย น้ำตาลซูโครส
ข้อมูลจากหนังสือ เบาหวานโรคร้ายทำลายสุขภาพ สำนักพิมพ์ไพลินบุ๊คเนต จำกัด แนะนำวิธีกินน้ำตาลซูโครสไว้ ดังนี้
น้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดง ให้รสชาติหวานเหมือนกัน คือ 1 กรัม ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี หรือ 1 ช้อนชา ให้พลังงาน 20 กิโลแคลอรี แต่ให้คุณค่าทางอาหารต่างกัน ดังนี้
–น้ำตาลทรายขาว ผลิตจากอ้อย เมื่อได้น้ำตาลจะเข้าสู่กระบวนการฟอกสี ดังนั้นวิตามินแทบจะไม่มีหลงเหลืออยู่เลย ต่างจาก น้ำตาลทรายแดง ที่ไม่ผ่านกระบวนการฟอกสี จึงยังรักษาคุณค่าวิตามิน เช่น เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไว้
น้ำอ้อย ให้พลังงานและธาตุฟอสฟอรัสน้อยกว่าน้ำตาลทรายถึง 5 เท่า หรือ1 ช้อนชา ให้พลังงาน 3.8 กิโลแคลอรี เพราะน้ำอ้อยมีส่วนผสมของน้ำมากกว่า แถมน้ำตาลทรายมีปริมาณแคลเซียมน้อยกว่าน้ำตาลอ้อยอีกด้วย
น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลปึก ได้มาจากการเคี่ยวน้ำยอดอ่อนของมะพร้าว น้ำตาลปีบ1 ช้อนชา ให้พลังงาน 18 กิโลแคลอรี และยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก
สำหรับองค์การอนามัยโลกแนะนำว่า
“ในเด็กที่ต้องการดูแลสุขภาพและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ควรกินน้ำตาลส่วนเกินวันละ 4 ช้อนชา ในผู้ใหญ่ไม่ควรกินวันละ 6 ช้อนชา”
อย่าลืมนอกจากน้ำตาลทราย ซูโครส แล้วยังมีน้ำตาลกลูโคส น้ำตาลนม ที่เราต้องระมัดระวังในการกินด้วยนะ