ซึ่งส่งผลให้หนังศีรษะอักเสบ และมีเชื้อราเจริญเติบโตบนหนังศีรษะ และอาจรุนแรงมากจนหนังศีรษะมีอาการแดง และมีรังแคเป็นเกร็ดใหญ่และมีสีเหลือง อย่างไรก็ตาม การเกิดรังแคยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่จะพบปริมาณเชื้อราบางประเภทมากกว่าปกติ ดังนั้น ผู้ที่มีรังแคควรใช้ยารักษารังแคซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแชมพู ที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อรา และออกฤทธิ์ลดการหลุดลอกของเซลล์หนังศีรษะชั้นนอกสุด
สำหรับการปฏิบัติตัวของผู้ที่เป็นรังแค
ควรใช้ยารักษารังแคชนิดใดชนิดหนึ่งจนกว่าจะควบคุมอาการของรังแคได้
ควรฟอกแชมพูให้ทั่วหนังศีรษะ และปล่อยทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ดี
เลือกใช้แชมพูที่อ่อนโยนมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้น
ลดการใช้น้ำอุ่นสระผม
หากอาการคันศีรษะหายเป็นปกติ ควรหยุดใช้แชมพูยา ซึ่งแชมพูยารักษารังแคที่ใช้กันบ่อยในท้องตลาด ได้แก่
คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) มีคุณสมบัติต้านเชื้อราที่เป็นสาเหตุของรังแค
ซิงค์ไพริไทออน (Zinc Pyrithione) มีคุณสมบัติต้ายเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย
ซีลีเนียมซัลไฟด์ (Selenium sulfide) ช่วยลดการหลุดลอกของเซลล์หนังศีรษะชั้นนอกสุดได้
สำหรับผู้ที่เป็นรังแคควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นสระผม เลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผม และเลี่ยงการแต่งผมด้วยความร้อน