สิ่งของสกปรกในชีวิตประจำวัน ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ว่าสกปรกมากกว่าชักโครกซะอีก อยากรู้ไหมว่าสิ่งของเหล่านั้นคืออะไร ไปหาคำตอบกันเถอะ
รู้ตัวหรือไม่ว่าภัยร้ายอยู่ใกล้ตัวคุณในทุก ๆ วัน สำหรับชักโครกที่หลายคนมองว่าเป็นจุดสกปรก เชื่อไหมว่าที่จริงแล้วกลับมีสิ่งของ 9 อย่าง ที่มีค่าเฉลี่ยของความสกปรกมากกว่าชักโครกจนคุณอาจตกใจ และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือคุณเองก็เคยสัมผัสหนึ่งในสิ่งของเหล่านี้มาก่อนแน่นอน เอาล่ะ ! มาดูกันว่ามีสิ่งของะไรบ้างที่นำเชื้อแบคทีเรียมาให้ และวิธีการทำความสะอาดที่ถูกต้องควรทำอย่างไร ไปดูกันเลย
1. เขียงหั่นอาหาร
มหาวิทยาลัยอริโซน่าได้ทำการวิจัยและพบว่า เขียงหั่นอาหารที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว 200 ครั้งขึ้นไป โดยค่าเฉลี่ยแล้วมีเชื้อแบคทีเรียมากกว่าชักโครกในห้องน้ำเสียอีก สาเหตุหลัก ๆ มาจากเนื้อสัตว์และเครื่องในดิบ ทำให้ร่องรอยการหั่นมีดลงไปบนเขียงนั้น เป็นที่สะสมของเชื้อแบคทีเรียจำนวนมาก โดยมีวิธีการทำความสะอาดดังนี้ เขียงที่เป็นพลาสติกต้องใช้น้ำยาล้างจานและน้ำสะอาดล้างออก หลังจากนั้นนำลงไปแช่ในน้ำที่ผสมสารฟอกจาง 2 ช้อนชา กับน้ำ 1 แกลลอน ส่วนเขียงไม้ก็ทำความสะอาดเช่นเดียวกับเขียงพลาสติก แต่ไม่ต้องแช่สารฟอกจางค้างคืนไว้
2. ถาดอาหารสุนัข
หนึ่งในสิ่งของที่สะสมความสกปรกมากที่สุดคือ ถาดอาหารสุนัข เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าหากสุนัขของคุณไปเลียที่ชักโครก จะเจอเชื้อแบคทีเรียอยู่ประมาณ 295 ชนิดปะปนอยู่ ซึ่งก็นับว่าเยอะพอดู แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ ในจานข้าวสุนัขที่สกปรกจะมีแบคทีเรียมากกว่าถึง 2,110 ชนิดเลยทีเดียว ดังนั้นจึงควรต้องนำถาดอาหารที่สุนัขกินเสร็จแล้วมาล้างในน้ำร้อน และตามด้วยน้ำยาล้างจานทันที หรือจะใช้น้ำอุ่น ผสมกับเบกกิ้งโซดา และเกลือในปริมาณที่เท่ากัน เพื่อขัดคราบเศษอาหารออก จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้มีเชื้อแบคทีเรียตกค้างอยู่ควรล้างทำความสะอาดทุกวันด้วย
9 สิ่งของในชีวิตประจำวัน ที่สกปรกกว่าชักโครกซะอีก
3. เครื่องซักผ้า
การซักชุดชั้นในด้วยเครื่องซักผ้าจะเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียอีโคไลกว่า 100 ล้านตัว ซึ่งคราบสกปรกจากชุดชั้นในจะแพร่เชื้อสู่เสื้อผ้าอื่น ๆ นอกจากนี้เครื่องซักแบบฝาหน้ายังเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะมีระบบปล่อยน้ำจากฐาน ทำให้เกิดความชื้น แต่เราสามารถทำความสะอาดได้โดยเทสารฟอกขาวลงไปในช่องผงซักฟอก และเปิดเครื่องให้ปั่นด้วยความร้อนสูง ตามด้วยการปั่นแห้ง จากนั้นเปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ และควรทำวิธีนี้เดือนละครั้ง ขณะที่ชุดชั้นในจำเป็นต้องซักแยกด้วยน้ำร้อน เพื่อฆ่าเชื้อโรคไม่ให้แบคทีเรียกระจายได้อีก
4. โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต
นักวิจัยชาวอังกฤษได้ทำการศึกษาจากการสุ่มตัวอย่าโทรศัพท์มือถือ 30 เครื่อง และแท็บเล็ต 30 เครื่อง พบว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปวดท้อง โดยพบเชื้อนี้ถึง 600 หน่วยในแท็บเล็ต และ 140 หน่วยในโทรศัพท์มือถือ เมื่อเปรียบเทียบกับชักโครกแล้วกลายเป็นจิ๊บ ๆ ไปเลย เพราะมีอยู่แค่ 20 หน่วยเท่านั้น ดังนั้นอย่าลืมนำผ้าสะอาดเช็ดที่หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกครั้งหลังใช้ หรืออาจจะหยดครีมอาบน้ำเพียงเล็กน้อยลงไปเช็ดด้วยก็ได้
5. พรมในบ้าน
เชื้อแบคทีเรียมักจะชอบเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในซอกพรมของคุณ ไม่ว่าจะมาจากเศษอาหาร ขนหนังสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ และเศษชิ้นส่วนอื่น ๆ เชื่อหรือไม่ว่ามีแบคทีเรียอาศัยอยู่ประมาณ 2 แสนตัวเลยทีเดียว ตัวแบ่งออกเป็น เชื้อแบคทีเรียอีโคไล สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส และอื่น ๆ ทำให้แบคทีเรียในชักโครกดูน้อยลงทันที และถ้าอยากกำจัดให้หมดจด ควรโทรเรียกบริษัททำความสะอาดพรมมาทำความสะอาดปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก
9 สิ่งของในชีวิตประจำวัน ที่สกปรกกว่าชักโครกซะอีก
6. มือจับก๊อกน้ำ
มือจับก๊อกน้ำในห้องน้ำของคุณนั้น มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียจากการสัมผัสชักโครกราว 21 ครั้ง แต่ที่น่าอึ้งไปกว่านั้น คือมือจับก๊อกน้ำในห้องครัวกลับมีการปนเปื้อนถึง 44 ครั้ง จากของดิบ ของคาว และเชื้อโรคในการทำอาหาร วิธีทำความสะอาดควรชำระล้างและฆ่าเชื้อตามปกติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการล้างมือของคุณจะไม่มีสิ่งเจือปนจากเชื้อแบคทีเรีย
7. คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์
การรับประทานอาหารระหว่างการใช้งานคอมพิวเตอร์อาจจะนำมาซึ่งปัญหาที่ใหญ่ได้ ถึงขนาดที่องค์กรกลางควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกาออกมายอมรับว่า มีการระบาดของโรคท้องร่วงอย่างรุ่นแรงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทำให้นักเรียนกว่า 100 คนต้องหยุดเรียน สาเหตุมาจากการแพร่ของเชื้อแบคทีเรียลงสู่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เราจึงควรทำความสะอาดแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดอยู่เสมอ และล้างมือบ่อย ๆ ทุกครั้งหลังใช้
8. กระเป๋าถือ
นักวิจัยชาวอังกฤษทำการศึกษาจากกระเป๋า 25 ใบ พบว่ามีสิ่งสกปรกมากกว่าในชักโครกหลายเท่า เพราะอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าอย่างเช่น ครีมทาหน้าและมือ ลิปสติก และลิปกลอส มีเชื้อโรคปะปนอยู่มากมาย นอกจากนี้ร้านขายกระเป๋ามือสองยังมีเชื้อไวรัสที่ทำให้ท้องร่วงปะปนอยู่ที่กระเป๋าด้วย วิธีทำความสะอาดคือวางกระเป๋าให้ห่างจากพื้น และซักล้างตามปกติเท่าที่ทำได้ ส่วนกระเป๋าที่ทำจากพลาสติกและหนังสัตว์ ควรใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดแทน
9. ชุดกันเปื้อนและฟองน้ำ
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยอริโซน่า ได้เก็บตัวอย่างชุดกันเปื้อนและฟองน้ำทำความสะอาดในครัวกว่า 1,000 ชิ้น พบว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียถึง 10% และเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ อีกประมาณ 134,630 ชนิด ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนชุดกันเปื้อนและฟองน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือนำไปอบความร้อนในไมโครเวฟ 30 วินาที เพื่อฆ่าเชื้อ