xs
xsm
sm
md
lg

เตือนห้ามกิน “ลูกพลับ-มะละกอ-ผลไม้รสเปรี้ยว” ตอนท้องว่าง อันตรายเสี่ยงกระเพาะระคายเคือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า การกินผลไม้ให้ได้คุณค่าแต่ละครั้ง ควรคำนึงถึงปริมาณที่เพียงพอมากกว่าช่วงเวลา โดยในหนึ่งวันควรกินผลไม้ให้ได้มื้อละ 1-2 ส่วน ตามแต่ละประเภท เช่น มะละกอสุก 6 ชิ้นพอคำ เงาะ 4 ผล ฝรั่งครึ่งผล สับปะรด 6 ชิ้นพอคำ กล้วยน้ำว้า 1 ผล ชมพู่ 2 ผลขนาดใหญ่ มังคุด 4 ผลขนาดกลาง ส้มสายน้ำผึ้ง 1 ผล เป็นต้น ซึ่งจากรายงานทางคลินิกและระบาดวิทยาพบว่า การกินผลไม้เป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และป้องกันมะเร็งบางชนิด รวมทั้งทำให้ระบบขับถ่ายปกติและช่วยควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากในผลไม้มีใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำ เมื่อกินเข้าไปจะเกิดการพองตัวเป็นเจลแทนพื้นที่บางส่วนในกระเพาะอาหารทำให้รู้สึกอิ่ม อีกทั้งยังกักน้ำตาลและคอเลสเตอรอล จึงลดการดูดซึม ดังนั้น เมื่อกินผลไม้ตอนท้องว่างทำให้รู้สึกอิ่มส่งผลให้กินอาหารมื้อหลักหลังจากนั้นในปริมาณที่ลดลงตามไปด้วย

“ นอกจากนี้ ในผลไม้ยังมีใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเร่งให้อาหารที่กินเข้าไปผ่านไปตามทางเดินอาหารได้เร็วขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้เร็ว ช่วยลดการดูดซึมหรือสัมผัสสารมะเร็งที่ปนเปื้อนเข้ามาและเพิ่มมวลอุจจาระ ลดปัญหาท้องผูก ทั้งนี้ ควรกินผลไม้ให้หลากหลายสลับกันไป เพื่อให้ร่างกายได้รับสารต่างๆ ที่มีประโยชน์อย่างสมดุล ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น