รายงานจากเว็บไซต์เดลี่เมล ระบุว่า ทีมนักวิจัยจากโรงเรียนแพทย์ แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้ทำการทดลองเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 โดยนำหนูที่ป่วยโรคผิวหนังจากการจากรังสี อันเป็นผลกระทบที่เกิดกระบวนการรักษาด้วยรังสีและการทำคีโม มาแช่ในสารละลายเจือจางของสารฟอกขาว เป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน ผลการทดลองพบว่า หนูที่ถูกนำมาแช่น้ำยาฟอกขาวเจือจางเริ่มมีผิวหนังที่สุขภาพดีกว่าเดิม และมีขนงอกกลับขึ้นมา ต่างจากหนูที่ถูกนำไปแช่ในน้ำเปล่าอย่างเดียว จึงสรุปได้ว่า สารฟอกขาวนั้นมีสรรพคุณช่วยรักษาผิวได้จริง ๆ
แต่จากผลการทดลองนี้ จะนำมาปรับใช้กับผิวหนังของคนก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะโอกาสที่จะผสมสารให้มีความเข้มข้นเจือจางได้เท่ากับที่นักวิทยาศาสตร์ทำในห้องทดลองนั้นเป็นไปได้น้อยมาก และหากผสมผิดสัดส่วนขึ้นมา โอกาสที่จะทำให้ผิวเบิร์นก็มีสูงมากทีเดียว
กระนั้น สาวอังกฤษหลายคนก็ยังพยายามนำไปใช้ โดยใช้สารฟอกขาวในครัวเรือน เช่น ครีมฟอกสีขน มาฟอกผิวหน้า เมื่อฟอกแล้วก็ตามด้วยการมาส์กหน้า เป็นสูตรฮิตผิวใสทันใจก่อนไปออกงานสำคัญ ๆ
ดอกเตอร์แดเนียล ชาปิโร แพทย์ผิวหนังจากรัฐแอริโซนา บอกว่า ในทางการแพทย์นั้น มีการจ่ายยาเป็นครีมที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวให้กับผู้ป่วยโรคผิวหนังจริง โดยมันช่วยให้ชั้นคอลลาเจนหนาขึ้น ในทางความงานมันก็อาจช่วยเรื่องชะลอวัยได้ แต่แน่นอนว่าการใช้สุ่สี่สุ่มห้าเป็นเรื่องอันตราย และหากจะนำสารฟอกขาวไปใช้กับผิวหน้าจริง ๆ ก็ยังคงต้องได้รับการศึกษาอย่างหนักอีกนานเลยทีเดียว
ได้ทราบอย่างนี้แล้ว สาว ๆ ก็อย่ารินำสารฟอกขาว หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ฟอกสีขนมาใช้กับใบหน้าเด็ดขาดเลยนะคะ ผิวส่วนอื่นด่างไปอาจยังพอซ่อนจากสายตาได้ แต่ถ้าหน้าด่างและไหม้ ซ่อนยังไงก็ซ่อนไม่ได้นะคะ หากอยากผิวใส ให้เน้นการดูแล พักผ่อนเพียงพอ และลองหามาส์กเจ๋ง ๆ มาใช้ดีกว่า บวกกับทริคในการแต่งหน้าอีกนิด คุณก็จะมีผิวสวยใสเหมือนได้มาแต่เกิดเหมือนกันจ้า