MGR Online - รัฐบาลทหารเมียนมา ให้ผู้เชี่ยวชาญออกแบบโครงการเขื่อนไฟฟ้ามิตโส่งในรัฐคะฉิ่นใหม่ เพื่อรับแรงสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้มากกว่าเหตุที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2568 ชี้แบบเดิมรับได้สูงสุดเพียง 7.1 ริกเตอร์ ซ้ำที่ตั้งเขื่อนอยู่ห่างจากเขตรอยเลื่อนสะกายเพียง 25 กิโลเมตร
Eleven Media Group รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 พล.อ.อาวุโส โซวิน รองประธาน คณะกรรมการความมั่นคงและสันติภาพแห่งรัฐ(SSPC) เมียนมา ได้เดินทางขึ้นไปประชุมร่วมกับคณะบริหารรัฐคะฉิ่น โดยช่วงหนึ่งเขาได้กล่าวถึงโครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้ามิตโส่งที่กำลังจะสร้างขึ้นในรัฐคะฉิ่น ว่า เขื่อนแห่งนี้ต้องมีการออกแบบใหม่เพื่อให้สามารถทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่มีขนาดใหญ่กว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งขึ้นในภาคมัณฑะเลย์ เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในภาคมัณฑะเลย์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม เวลา 12.50 น.ตามเวลาเมียนมา โดยครั้งแรกมีความแรง 7.2 ตามมาตราริกเตอร์ แต่หลังจากนั้นได้เกิดอาฟเตอร์ช๊อคตามมาอีกหลายร้อยครั้ง มีความรุนแรงตั้งแต่ 7.9-8.2 ตามมาตราริกเตอร์ สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายพื้นที่ของเมียนมา มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5 พันราย ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 1 หมื่นราย บ้านเรือนและอาคารหลายพันหลังพังราบเป็นหน้ากลอง
พล.อ.อาวุโส โซวิน กล่าวว่า รูปแบบของเขื่อนมิตโส่งเดิมถูกออกแบบให้รองรับเหตุแผ่นดินไหวที่มีความแรงสูงสุด 7.1 ตามมาตราริกเตอร์ และที่ตั้งของโครงการยังอยู่ห่างจากเขตแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังมีพลังทอดตัวยาวตลอดตอนกลางประเทศเมียนมา และเป็นต้นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม เพียง 25.4 กิโลเมตร
เขาบอกว่า ขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญจาก ASEAN Chartered Professional Engineer(ACPE) กำลังประเมินและออกแบบโครงการเขื่อนมิตโส่งใหม่ เพื่อขยายขีดความสามารถในการรับแรงสั่นสะเทือนให้มากขึ้นกว่าเก่า
เขื่อนผลิตไฟฟ้ามิตโส่งเป็น 1 ใน 6 โครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ กำลังการผลิตรวม 19,099 เมกะวัตต์ ที่รัฐบาลเมียนมามีแผนจะสร้างขึ้นตามแนวแม่น้ำมะลิคะและแม่น้ำเมคะ ทางตอนเหนือของรัฐคะฉิ่น โดยเขื่อนมิตโส่งเป็นเขื่อนที่มีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 6,000 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนเขื่อนแห่งนี้สูงถึง 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะส่งออกไปยังประเทศจีนเป็นหลัก
ที่ตั้งโครงการเขื่อนมิตโส่งอยู่บริเวณที่แม่น้ำมะลิคะและแม่น้ำเมคะมาบรรจบกัน ซึ่งเป็นต้นแม่น้ำอิรวดี ห่างจากเมืองมิตจีน่า เมืองหลวงของรัฐคะฉิ่น ขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 42 กิโลเมตร
บริษัท China Power Investment Corporation จากจีน ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับกระทรวงพลังงานไฟฟ้า เมียนมา ในโครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้ามิตโส่ง เมื่อเดือนธันวาคม 2549 และเริ่มมีการออกแบบโครงการในปีถัดมา(2550) โดยจะสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีต สันเขื่อนสูง 139.6 เมตร ยาว 1,310 เมตร
อย่างไรก็ตาม เขื่อนแห่งนี้ถูกต่อต้านจากหลายภาคส่วน เนื่องจากเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นบริเวณกว้าง คาดว่าเมื่อเขื่อนสร้างเสร็จจะทำให้มีพื้นที่น้ำท่วมกว้างถึง 447 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมหมู่บ้าน 47 แห่ง ทำให้มีผู้ที่ต้องอพยพ โยกย้ายถิ่นฐานถึง 11,800 คน
วันที่ 30 กันยายน 2554 ประธานาธิบดีเตงเส่ง ซึ่งเข้ารับตำแหน่งจากการเลือกตั้ง ได้ประกาศระงับโครงการก่อสร้างเขื่อนมิตโส่ง โดยให้เหตุผลว่าต้องฟังกระแสคัดค้านจากภาคประชาชน
แต่หลังจาก พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย นำกำลังออกมาทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 มีกระแสข่าวเผยแพร่ออกมาเป็นระยะว่ารัฐบาลทหารจะฟื้นโครงการเขื่อนมิตโส่งขึ้นมาอีกครั้ง กระทั่งวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 กระแสข่าวก็เป็นความจริง เมื่อมีการแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหม่ของโครงการเขื่อนมิตโส่ง
พล.อ.อาวุโส โซวิน เป็นนายทหารที่มีความใกล้ชิดกับโครงการเขื่อนมิตโส่งเป็นอย่างดี เนื่องจากเคยขึ้นไปรับตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพภาคเหนือ ในรัฐคะฉิ่น ระหว่างปี 2551-2553 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังมีการเริ่มต้นโครงการเขื่อนมิตโส่งพอดี


