รอยเตอร์ - ไต้ฝุ่นยางิสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อโรงงานหลายแห่งและน้ำท่วมโกดังสินค้าในศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่เน้นการส่งออกทางตอนเหนือของเวียดนาม คาดว่าโรงงานบางแห่งจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จึงจะสามารถกลับมาดำเนินการตามปกติได้
พายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในเอเชียปีนี้ ยังคงก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในวันพุธ (11) โดยคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าร้อยราย และทำลายโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น โครงข่ายไฟฟ้าและถนน หลังจากพายุพัดขึ้นฝั่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
การหยุดชะงักที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เนื่องจากเวียดนามเป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่ส่งออกผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ไปยังสหรัฐฯ ยุโรป และประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ
“สินค้าจำนวนมากถูกพัดหายไปกับสายลม” แคลวิน เหวียน หัวหน้าบริษัทโลจิสติกส์ WeDo Forwarding Co. ของเวียดนาม อ้างถึงผลิตภัณฑ์ที่ต้องจัดส่งไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
หลังคาโกดังสินค้า 3 แห่งของบริษัทในเมืองไฮฟองถูกพายุซัดปลิวหาย และโกดังยังถูกน้ำท่วมจนถึงวันนี้ (11) แคลวิน เหวียน ระบุ
เมืองไฮฟอง ที่เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นยางิรุนแรงที่สุด คาดว่า 95% ของธุรกิจจะสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมได้ในสัปดาห์หน้า หน่วยงานที่ดูแลเขตอุตสาหกรรมระบุ
“หลังคาของธุรกิจหลายแห่งได้รับความเสียหายจากพายุ กำแพงบางส่วนพังถล่ม ประตู รั้ว ป้าย ระบบกล้อง โรงรถได้รับความเสียหาย และประตูเหล็กบานเลื่อนล้มคว่ำ น้ำเข้าท่วมโรงงานของพวกเขา” หน่วยงานที่ดูแลเขตอุตสาหกรรมระบุบนเว็บไซต์
หัวหน้าเขตอุตสาหกรรมกล่าวว่า จากการสำรวจความเสียหาย มีโรงงาน 20 แห่งจากทั้งหมด 150 แห่ง จะต้องหยุดดำเนินการอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ และคาดว่าอัตราการใช้ไฟฟ้าจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่าปกติราว 1 ใน 3 เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน เนื่องจากหลายบริษัทกำลังยุ่งกับการฟื้นฟูโรงงานที่ได้รับความเสียหาย
ที่สวนอุตสาหกรรมอีกแห่งหนึ่งในเมืองไฮฟอง บริษัท LG Electronics ของเกาหลีใต้ ระบุว่าบริษัทได้กลับมาดำเนินการบางส่วนแล้วเมื่อวันอังคาร (10) หลังจากกำแพงของโรงงานพังถล่มเมื่อวันเสาร์ และโกดังเก็บตู้เย็นและเครื่องซักผ้าของบริษัทถูกน้ำท่วม
ด้านการไฟฟ้าเวียดนามกำลังดำเนินการซ่อมแซมสายไฟที่เสียหายหลายสิบเส้น ไฟฟ้าดับยังคงสร้างความเสียหายให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือ
ใน จ.กว๋างนีง ที่อยู่ทางเหนือของเมืองไฮฟอง หลายโรงงานยังไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา
โรงงานของบริษัท Jinko Solar ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของจีน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยพนักงานคนหนึ่งของบริษัทกล่าวว่า บริษัทยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการผลิตต่อได้ เนื่องจากหน้าต่างแตกและหลังคาพัง
ส่วนศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่อยู่ห่างจากชายฝั่งอย่าง จ.ท้ายเหวียน และ จ.บั๊กซยาง ที่เป็นที่ตั้งของโรงงานขนาดใหญ่ของบริษัทข้ามชาติ เช่น บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ซัปพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิล ก็เสี่ยงที่จะเผชิญกับน้ำท่วมเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของรอยเตอร์กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณของน้ำท่วมที่โรงงานขนาดใหญ่ของซัมซุงใน จ.ท้ายเหวียน ที่อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางเหนือราว 60 กิโลเมตร เนื่องจากน้ำเริ่มลดระดับ แต่คาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีก.