เอเอฟพี - สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นยางิพุ่งขึ้นเป็น 59 คนวันนี้ (9) ขณะที่ผู้นำทางธุรกิจกล่าวว่าพายุลูกนี้เป็น “หายนะ” สำหรับภาคการผลิตที่สำคัญของประเทศ
นักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ไต้ฝุ่นยางิเป็นไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มภาคเหนือของเวียดนามในรอบ 30 ปี ทำสะพานพังถล่ม หลังคาอาคารถูกลมซัดปลิวหาย สร้างความเสียหายต่อตัวโรงงาน หลังจากพายุขึ้นฝั่งเมื่อวันเสาร์ (7) ด้วยความเร็วลมมากกว่า 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อิทธิพลของพายุทำให้ไฟฟ้าดับ ที่ส่งผลกระทบต่อโรงงานต่างๆ ในภาคเหนือ ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตหลักของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น ซัมซุง และฟ็อกซ์คอนน์
นอกจากนี้ พื้นที่ภาคเหนือของประเทศยังต้องต่อสู้กับน้ำท่วมรุนแรงที่ทำให้ชุมชนหลายแห่งจมน้ำวันนี้ (9)
สื่อของรัฐรายงานว่า พายุลูกนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 59 คนในเวียดนาม ในจำนวนดังกล่าว 44 คนเสียชีวิตจากเหตุดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 247 คน
“สถานการณ์น้ำท่วมนั้นรุนแรงมาก เราได้สั่งปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำแล้ว หน่วยงานท้องถิ่นต่างๆ ต้องดำเนินการช่วยเหลือและรับรองความปลอดภัยของประชาชนและทรัพย์สินของพวกเขา” เหวียน ฮว่าง เหียบ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท ระบุ
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 คน ขณะที่ไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มภาคใต้ของจีนและฟิลิปปินส์ ก่อนที่จะมาถึงเวียดนาม
ชาวเวียดนามราว 1.5 ล้านคนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และสะพานขนาดใหญ่ข้ามแม่น้ำแดงที่ไหลเชี่ยวพังถล่มใน จ.ฝูเถาะ
ภาพในสื่อของรัฐแสดงให้เห็นว่าสะพาน Phong Chau ที่มีความยาว 375 เมตร พังถล่มลงไปครึ่งหนึ่ง
รองนายกรัฐมนตรีโห่ ดึ๊ก เฝิก คาดว่ามีผู้สูญหาย 13 คน ตามการรายงานของสำนักข่าว VNExpress
เขากล่าวว่ามีรถยนต์และรถบรรทุก 10 คัน รวมถึงรถจักรยานยนต์ 2 คัน อยู่บนสะพาน ขณะที่สะพานพังถล่ม
ใน จ.เอียนบ่าย มีชาวบ้าน 2,400 หลังคาเรือนต้องอพยพไปยังพื้นที่สูง เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนอยู่ในระดับอันตราย และในบางพื้นที่ของเมืองเอียนบ่ายน้ำท่วมสูง 1 เมตร
เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีสถานที่ 130 แห่ง ใน 17 เมืองและจังหวัดทั่วภาคเหนือของเวียดนามมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม
จากข้อมูลของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ระบุว่าลูกค้ากว่า 5.7 ล้านคนทั่วภาคเหนือได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับในวันเสาร์และวันอาทิตย์
เวียดนามเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานของบริษัทสำคัญที่สุดในโลกหลายแห่ง และโรงงานสำคัญของท้องถิ่นและต่างประเทศหลายแห่งตั้งอยู่ในภาคเหนือ
ประธานหอการค้าเกาหลีใต้ในเวียดนามกล่าวกับเอเอฟพีว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้เป็นหายนะสำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของเมืองไฮฟอง เมืองท่าที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไต้ฝุ่น
“ระหว่างพายุซัดถล่ม เกิดสถานการณ์ไฟฟ้าดับ ทำให้โรงงานบางแห่งต้องปิดลง ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องใช้เวลาและเงินจำนวนมากในการติดตั้งเครื่องจักรทั้งหมดใหม่” ประธานหอการค้าเกาหลีใต้ กล่าว
ขณะที่ตัวแทนจากหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นกล่าวว่า หลังคาของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์รายหนึ่งถูกพายุพัดปลิวหายไป และผลิตภัณฑ์ของพวกเขาถูกน้ำท่วม
พายุไต้ฝุ่นในภูมิภาคนี้ก่อตัวใกล้ชายฝั่งมากขึ้น ทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็ว และอ่อนกำลังช้าลงเมื่อขึ้นฝั่ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.
