MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา เตือนชาวเขมรไม่ให้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลโดยอ้างถึงเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงในเมืองหลวงของบังกลาเทศเมื่อเร็วๆ นี้ ที่กลายเป็นการปะทะกันอย่างรุนแรง และทำให้ผู้นำของประเทศต้องลาออกและหลบหนีโดยเฮลิคอปเตอร์เมื่อต้นสัปดาห์
ประชาชนสามารถใช้เสรีภาพในการแสดงออกได้ แต่ไม่ควรใช้เสรีภาพจัดการชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่ ฮุน มาเนต กล่าว
“ผมไม่อยากเห็นสถานการณ์แบบนี้ในกัมพูชา” ผู้นำเขมรกล่าว และเสริมว่าเขาต้องการรักษาความมั่นคงในกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงพนมเปญ
“ดังนั้น อย่ากล่าวหารัฐบาลว่าเป็นเผด็จการ หากรัฐบาลดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่พยายามก่อเหตุและผลักดันให้เกิดการชุมนุมประท้วงแบบบังกลาเทศในกัมพูชา” ฮุน มาเนต กล่าว
การชุมนุมประท้วงใหญ่ในบังกลาเทศเริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนก่อนเพื่อต่อต้านโควตางานภาครัฐ และลุกลามกลายเป็นความรุนแรงเมื่อกองกำลังรักษาความปลอดภัยพยายามปราบปราม และในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา ลาออกและหนีออกนอกประเทศ
ฮุน มาเนต ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือน ส.ค.2566 หลังจากฮุนเซน พ่อของเขาก้าวลงจากตำแหน่งหลังครองอำนาจมาหลายทศวรรษ
เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ฮุน มาเนต ได้แสดงความคิดเห็นในลักษณะเดียวกันหลังจากดำรงตำแหน่งได้ 100 วัน โดยกล่าวว่าจะเป็นการดีกว่าหากนักวิจารณ์เรียกเขาว่าผู้นำเผด็จการ มากกว่าที่ผู้คนจะคิดว่าเขาไม่สามารถเป็นผู้นำประเทศได้
ภายใต้การปกครองของฮุนเซน รัฐบาลกัมพูชามักปราบปรามนักวิจารณ์รัฐบาล โดยใช้การข่มขู่หรือดำเนินคดีเพื่อขัดขวางฝ่ายตรงข้าม
นอกจากนี้ ฮุนเซน มักกล่าวหาว่ารัฐบาลต่างประเทศพยายามยุยงปลุกปั่นให้เกิดการปฏิวัติสีในกัมพูชา
ในกรุงพนมเปญ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิเสธที่จะให้ใบอนุญาตเดินขบวนหรือชุมนุมประท้วงในที่สาธารณะ และตำรวจมักจับกุมนักเคลื่อนไหวเพื่อขัดขวางหรือยับยั้งการชุมนุมประท้วง
เนื่องการจากเลือกตั้งถูกควบคุมอย่างเข้มงวดในกัมพูชา ทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลคือการประท้วงบนท้องถนน สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านที่ลี้ภัยในต่างแดน กล่าว
“ผมเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบังกลาเทศสร้างความหวังให้ชาวกัมพูชา การปกครองของฮุนเซนและบังกลาเทศนั้นเหมือนกัน พวกเขาเป็นรัฐบาลเผด็จการ” สม รังสี กล่าว
ฮุนเซน วัย 72 ปี ยังคงมีอิทธิพลในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชาที่ปกครองประเทศ และดำรงตำแหน่งประธานพฤฒสภา (สภาสูง) ที่เขาโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์บ่อยครั้งและยังกล่าวปราศรัยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเดือนก่อน ตำรวจจับกุมนักเคลื่อนไหว 3 คน และชายอีกคนหนึ่งที่ทำให้ฮุนเซนโกรธจากการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเวียดนามและลาว
ฮุนเซนได้กล่าวเตือนไม่ให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสูญเสียบูรณภาพดินแดนของกัมพูชาให้เวียดนาม ที่เป็นประเด็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน ที่นำไปสู่การจับกุมนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ฮุน มาเนต พยายามให้คำมั่นกับประชาชนเกี่ยวกับข้อตกลงที่รู้จักในชื่อ พื้นที่สามเหลี่ยมเพื่อการพัฒนากัมพูชา-ลาว-เวียดนาม
“ข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเขตสามเหลี่ยมจะไม่ทำให้เราสูญเสียประเทศหรือดินแดนของเรา” ฮุน มาเนต กล่าว.