เอเอฟพี - เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ทางตอนเหนือของพม่าทำให้ประชาชนหลายพันคนติดอยู่ในบ้านของตนเอง ขณะที่ไฟฟ้าและโทรศัพท์ใช้การไม่ได้ ตามการรายงานของชาวบ้านและสื่อท้องถิ่น และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าจะมีฝนตกหนักมากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในเมืองมิตจีนา ทางตอนเหนือของรัฐกะฉิ่น ทำให้น้ำในแม่น้ำอิรวดีเพิ่มสูงขึ้นเหนือกว่า ‘ระดับอันตราย’ ตามการรายงานของสื่อของรัฐ
สื่อท้องถิ่นเผยภาพที่แสดงให้เห็นสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ถูกน้ำท่วม และผู้คนกำลังเดินลุยน้ำท่วมสูงระดับคอ พร้อมกับแบกข้าวของไว้เหนือศีรษะ
“น้ำขึ้นเร็วมาก ชาวบ้านจำนวนมากยังติดอยู่ในบ้าน ในเมืองขาดแคลนเชื้อเพลิง ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงผู้คนด้วยเรือยนต์” ชาวเมืองมิตจีนารายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพี และเสริมว่าเครือข่ายโทรศัพท์และไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่วันอาทิตย์
ชาวเมืองมิตจีนาอีกรายหนึ่งกล่าวว่า ชั้นล่างของบ้านจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้เธอต้องอาศัยพักอยู่กับเพื่อนบ้านจนกว่าทีมกู้ภัยจะเข้าถึง
แม้ระดับน้ำเริ่มลดลงเล็กน้อยในเช้าวันนี้ (2) แต่ฝนตกคงตกอยู่
สื่อท้องถิ่นระบุว่า น้ำท่วมขังทำให้ชาวบ้านหลายพันคนติดอยู่ในบ้านของตนเอง และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีฝนตกหนักมากขึ้นอีก
ที่บริเวณท้ายน้ำในเมืองมัณฑะเลย์ แม่น้ำอิรวดีอาจสูงขึ้นอีกราว 1.8-3 เมตร ในช่วง 10 วันแรกของเดือน ก.ค.
ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือน มิ.ย. ถึงเดือน ต.ค. ดินถล่มถือเป็นเหตุอันตรายร้ายแรงสำหรับคนงานอพยพหลายพันคนที่เดินทางไปรัฐกะฉิ่นเพื่อขุดหาโลหะและแร่ธาตุมีค่าจากเนินเขา
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุดินถล่มในเหมืองขุดแรร์เอิร์ธทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และสูญหายอีกอย่างน้อย 7 คน ตามการระบุของคนงานเหมืองและสื่อท้องถิ่น
น้ำท่วมครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากพม่าอบอ้าวจากคลื่นความร้อนที่ทำสถิติใหม่ด้วยอุณหภูมิที่สูงถึง 48 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่
โดยทั่วไปแล้ว ฤดูฝนมักจะทำให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เกิดฝนตกหนักหลายเดือน แต่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้นทำให้รูปแบบของสภาพอากาศรุนแรงขึ้น.