ศาลลาวจำคุกตลอดชีวิต! ผู้บริหารสถาบันการเงิน โกงเงินฝากประชาชน

MGR Online - ศาลอาญาลาวพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต อดีตผู้บริหารสถาบันการเงินจุลภาคฐานฉ้อโกง ทำเอกสารปลอมขอกู้เงิน และถอนเงินฝากประชาชนไปเล่นการพนัน รวมกว่า 15 ล้านบาท ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดติดคุกด้วย 10 ปี

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ "ความสะหงบ" รายงานว่า ศาลอาญาแขวงอุดมไซได้ตัดสินลงโทษอดีตผู้บริหารสถาบันการเงินจุลภาค (Microfinance) 2 คน ในข้อหาฉ้อโกงเงินฝากของประชาชน โดยคนหนึ่งถูกพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนอีก 1 คน ถูกจำคุก 10 ปี

ตามการรายงานของ "ความสะหงบ" การตัดสินครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 โดยตามการแถลงสำนวนคดีต่อหน้าศาลขององค์การอัยการประชาชน แขวงอุดมไซ ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ประกอบด้วย นางพอนวิไล จำเลยที่ 1 อดีตหัวหน้าหน่วยบริการ ของสถาบันการเงินจุลภาคไซนิยม สาขาเมืองสิง แขวงหลวงน้ำทา และท้าวขันทะลี จำเลยที่ 2 อดีตผู้อำนวยการ สถาบันการเงินจุลภาคไซนิยม สาขาแขวงอุดมไซ

องค์การอัยการประชาชนแขวงอุดมไซแถลงว่า นางพอนวิไล จำเลยที่ 1 มีนิสัยติดการพนัน ทั้งเล่นตู้เกม เล่นไพ่ เล่นการพนันออนไลน์ รวมถึงซื้อหวยเถื่อน มีพฤติกรรมฉ้อโกงโดยนำเงินที่ประชาชนมาฝากไว้กับสถาบันการเงินจุลภาคไซนิยมไปเล่นการพนัน ด้วยวิธีการนำรายชื่อและประวัติของลูกค้าเก่ามาทำเป็นเอกสารปลอมเพื่อขอเงินกู้จากสถาบันการเงินจุลภาคไซนิคมเป็นจำนวนรวม 128 บัญชี คิดเป็นวงเงินรวม 4,072.6 ล้านกีบ

นอกจากนี้ จำเลยที่ 1 ยังได้ร่วมมือกับท้าวขันทะลี จำเลยที่ 2 ทำเอกสารปลอมเพื่อถอนเงินฝากที่ลูกค้านำมาฝากไว้กับสถาบันการเงินจุลภาคไซนิยม สาขาเมืองสิง โดยให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงนามรับรองการถอน มีบัญชีเงินฝากของลูกค้านับ 100 บัญชีที่ถูกถอนเงินออกไป คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 8,000 ล้านกีบ รวมวงเงินความเสียหายจากการกระทำของจำเลยทั้ง 2 คน มากกว่า 10,000 ล้านกีบ หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 15 ล้านบาท (ค่าเงินกีบตามอัตราตลาดอยู่ที่ 700 กีบ = 1 บาท)

ศาลอาญาแขวงอุดมไซพิจารณาแล้ว เห็นว่าจำเลยทั้ง 2 กระทำผิดตามการแถลงของอัยการจริง จึงพิพากษาให้จำคุกนางพอนวิไล จำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต และให้จำคุกท้าวขันทะลี จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 10 ปี.