MGR Online - คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงแถลงยืนยัน ผลการเก็บตัวอย่างน้ำต่อเนื่อง 4 วัน หลังเกิดเหตุรถบรรทุกกรดกำมะถันพลิกคว่ำที่แขวงหลวงพระบาง สภาพน้ำทั้งในแม่น้ำโขง และแม่น้ำคานขณะนี้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว
วันนี้ (8 เม.ย.) คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission : MRC) ได้เผยแพร่เอกสารแถลงข่าว เรื่องผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำโขง หลังเกิดอุบัติเหตุทำให้รถบรรทุกกรดกำมะถันเกิดพลิกตะแคงในแขวงหลวงพระบาง ทำให้กรดกำมะถันที่บรรทุกมาไหลปนเปื้อนในแม่น้ำคานและแม่น้ำโขงว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ลงเก็บตัวอย่างน้ำอย่างต่อเนื่องนับแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันที่ 7 เมษายน 2567 พบว่าน้ำในแม่น้ำคาน และแม่น้ำโขงขณะนี้ได้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว
ในเอกสารแถลงข่าวให้รายละเอียดว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 เมษายน 2567 ได้เกิดอุบัติเหตุกับรถขนาด 22 ล้อ ซึ่งบรรทุกกรดกำมะถันมาเต็มคันรถ น้ำหนักรวม 30 ตัน ที่บ้านบ้านพูช้างคำ นครหลวงพระบาง จนทำให้รถเกิดพลิกตะแคงส่งผลให้กรดกำมะถันที่บรรทุกมากับรถทั้งหมดได้รั่วออกมาและไหลลงสู่ร่องระบายน้ำ จากนั้นไหลต่อลงสู่ลำห้วยธรรมชาติเพื่อระบายลงสู่แม่น้ำคาน ที่ไหลต่อไปบรรจบกับแม่น้ำโขงหน้าวัดเชียงทอง
ต่อมามีผู้พบเห็นปลาจำนวนมากลอยขึ้นมาตายบนผิวน้ำของแม่น้ำคาน ห้องว่าการนครหลวงพระบางจึงได้มีหนังสือด่วนแจ้งถึงผู้บริหารท้องถิ่น สั่งห้ามประชาชนทุกพื้นที่ภายในนครหลวงพระบาง ไม่ให้ลงเล่นน้ำ หรืออาบน้ำในแม่น้ำคานและแม่น้ำโขง รวมถึงห้ามนำปลาที่ลอยตายอยู่ในแม่น้ำคานและแม่น้ำโขงไปบริโภคหรือขายต่ออย่างเด็ดขาด เพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากกรดกำมะถันที่ปนเปื้อนลงสู่แม่น้ำสายหลักทั้ง 2 สาย
โดยจุดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่ห่างจากชายฝั่งแม่น้ำคาน 300 เมตร ห่างจากจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำคานกับแม่น้ำโขงที่หน้าวัดเชียงทอง 6 กิโลเมตร
หลังเกิดเหตุ ในวันที่ 4 เมษายน ผู้บริหารท้องถิ่นได้นำแท่งแบริเออร์มาตั้งกั้นการไหลของน้ำในลำห้วยธรรมชาติ เพื่อบรรเทาการปนเปื้อนของกรดกำมะถันที่จะไหลลงสู่แม่น้ำคานและแม่น้ำโขงให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน MRC ให้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่วิชาการตั้งจุดเก็บตัวอย่างน้ำประมาณ 8 จุด เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งน้ำในลำห้วยธรรมชาติ น้ำในแม่น้ำคาน และน้ำในแม่น้ำโขง
จากผลการวิเคราะห์น้ำที่เก็บตัวอย่างมาตั้งแต่วันที่ 3-7 เมษายน พบว่าขณะนี้น้ำในแม่น้ำคานและแม่น้ำโขงได้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว ส่วนน้ำในลำห้วยธรรมชาติซึ่งเป็นต้นทางการไหลของกรดกำมะถันที่รั่วออกมาจากรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ ยังคงมีการปนเปื้อนอยู่เล็กน้อย เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังและคอยเก็บตัวอย่างน้ำไปวิเคราะห์หาระดับการปนเปื้อนต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนที่อยู่ทางใต้ลงไปของแม่น้ำโขง.