MGR Online - "ไป๋ โส่วเฉิง" อดีตประธานเขตปกครองตนเองโกก้าง ตัวการใหญ่แก๊งจีนเทาเมืองเล่าก์ก่าย ถูกตำรวจพม่าจับกุมตัว ส่งขึ้นเครื่องบินจากเนปีดอ พร้อมลูกชายและพวกรวม 10 คน กลับไปดำเนินคดีและรับโทษในจีนเมื่อวานนี้
เช้าวันนี้ (31 ม.ค.) สื่อท้องถิ่นของพม่าได้รายงานข่าวโดยอ้างข้อมูลที่ถูกประกาศโดยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ของจีนว่า ตำรวจพม่า และตำรวจจีนสามารถจับกุมตัวไป๋ โส่วเฉิง (Bai Suocheng หรือ 白所成) พร้อมลูกชายและพวกรวม 10 คน และได้ทำพิธีมอบรับผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดขึ้นเครื่องบินจากสนามบินนานาชาติเนปีดอ เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีและรับโทษในจีนเรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันอังคารที่ 30 มกราคม 2567
ไป๋ โส่วเฉิง คือตัวการใหญ่ลำดับที่ 1 ที่ทางการจีนต้องการตัว เนื่องจากเป็นผู้ที่เปิดทางและได้รับผลประโยชน์จากแก๊งอาชญากรชาวจีน หรือพวกจีนเทา ที่ได้เข้ามาใช้พื้นที่ชายแดนรัฐชาน-จีน โดยเฉพาะในเมืองเล่าก์ก่าย เมืองเอกของเขตปกครองตนเองโกก้าง เป็นแหล่งทำมาหากิน ประกอบอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ ทั้งบ่อนการพนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ ตลอดจนอาชญากรรมต่อเนื่องอีกหลายประเภท เช่น การค้าประเวณี และการค้ามนุษย์ โดยมีประชากรจีนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ
โดย ไป๋ โส่วเฉิง ซึ่งถูกทางการจีนออกหมายจับเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ได้ถูกจับพร้อมกับผู้ต้องหาหลักอีก 5 คน ได้แก่ Bai Yingcang ลูกชายของไป๋ โส่วเฉิง Wei Huairen Liu Zhengxiang Liu Zhengmao และ Xu Laofa และมีผู้ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนร่วมอยู่ในขบวนการอีก 4 คน ที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อ
ไป๋ โส่วเฉิง เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2493 ปัจจุบันอายุ 73 ปี เป็นอดีตประธานพื้นที่พิเศษหมายเลข 1 เขตปกครองตนเองโกก้าง และเป็นอดีตรองผู้บัญชาการ กองทัพโกก้าง (MNDAA) และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (Amyotha Hluttaw) หรือสภาสูงของพม่า สังกัดพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ซึ่งเป็นพรรคของทหาร
ปี 2552 กองทัพพม่าได้กดดันให้กองทัพโกก้างแปรสภาพเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) แต่เผิง จาเซิง หรือเผิง เจี่ยเซิง ประธานเขตปกครองตนเองโกก้าง และผู้บัญชาการกองทัพโกก้างขณะนั้นไม่ยินยอม จึงเกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างกองทัพโกก้างกับกองทัพพม่า และทำให้ผู้บริหารเขตปกครองตนเองโกก้างในขณะนั้นแตกแยกออกเป็น 2 กลุ่ม นำมาซึ่งสงครามระหว่างทั้ง 2 กองทัพในเดือนสิงหาคม 2552
ไป๋ โส่วเฉิง ซึ่งในตอนนั้นเป็นรองประธานเขตปกครองตนเองโกก้าง และรองผู้บัญชาการกองทัพโกก้าง นำทหารโกก้างจำนวนหนึ่งเข้าร่วมกับกองทัพพม่า เปิดทางให้ทหารพม่านำกำลังบุกเข้ายึดเมืองเล่าก์ก่าย ขณะที่กำลังพลโกก้างส่วนที่เหลือ ที่นำโดยฝ่ายของเผิง จาเซิง กับเผิง ต้าซุน หรือเผิง เต๋อเหริน ซึ่งเป็นลูกชาย ยอมถอนกำลังออกจากเมืองเล่าก์ก่าย และขึ้นไปตั้งฐานบัญชาการอยู่ที่เมืองโก ชายแดนรัฐชาน-จีน ในเขตจังหวัดหมู่เจ้
หลังเหตุการณ์สงบลงในปลายเดือนสิงหาคม 2552 กองทัพพม่าได้แต่งตั้งไป๋ โส่วเฉิง ขึ้นเป็นประธานเขตปกครองตนเองโกก้าง ทหารโกก้างฝ่าย ไป๋ โส่วเฉิง ที่ยอมมาเข้ากับกองทัพพม่าได้แปรสภาพเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน ส่วนเผิง จาเซิง ซึ่งถูกทางการพม่าออกหมายจับ ในตอนแรกได้ลี้ภัยไปอยู่ในมณฑลยูนนานของจีน ต่อมาได้กลับเข้ามาพักอาศัยอยู่กับจายลืน ประธานเขตพิเศษหมายเลข 4 ซึ่งเป็นลูกเขย ที่เมืองลา จนเสียชีวิตไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ด้วยวัย 94 ปี
หลังกลุ่มจีนเทาขยายการลงทุนเข้ามาในพื้นที่ชายแดนรัฐชาน-จีน ไป๋ โส่วเฉิง ที่ได้กลายเป็นผู้มีอิทธิพลสูงสุดในเขตปกครองตนเองโกก้าง ได้ร่วมมือกับเหล่าจีนเทา เปิดทางให้เข้ามาใช้เมืองเล่าก์ก่ายและพื้นที่อื่นๆในเขตปกครองตนเองโกก้าง เป็นฐานประกอบอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ จนมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก
เมื่อทางการจีนมีนโยบายกวาดล้างจีนเทาเหล่านี้อย่างเด็ดขาดในปี 2566 กองทัพโกก้าง (MNDAA) ซึ่งมีเผิง เต๋อเหริน เป็นผู้บัญชาการ จึงได้เปิดปฏิบัติการ 1027 ร่วมกับกองทัพตะอั้ง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA) บุกโจมตีฐานทหารพม่า ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2566 จนสามารถกลับมายึดเมืองเล่าก์ก่ายคืนได้สำเร็จเมื่อต้นเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยทหารพม่าจำนวนกว่า 2,000 นายที่ประจำการอยู่ในเขตปกครองตนเองโกก้างยอมถอนตัวออกจากพื้นที่ กลับไปยังฐานที่มั่นในเมืองล่าเสี้ยว
สำนักข่าว China Daily รายงานข้อมูลจากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนว่า นับแต่ทางการจีนและฝ่ายความมั่นคงของพม่า เริ่มปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งจีนเทาในพม่าอย่างจริงจังในปี 2566 จนถึงวันที่ 30 มกราคม 2567 มีการจับกุมอาชญากรจีนเทากลับไปดำเนินคดีและรับโทษในจีนแล้วรวมกว่า 44,000 คน ในนี้ 171 คน เป็นระดับผู้บงการ อีก 2,908 คน เป็นระดับหัวหน้า.