MGR ออนไลน์ - สื่อท้องถิ่นของเวียดนามรายงานว่า ชาวเวียดนามเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันว่าโรงแรมและร้านอาหารต่างๆ ในประเทศปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติดีกว่านักท่องเที่ยวท้องถิ่น ขณะที่คนวงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกล่าวว่า การเลือกปฏิบัตินั้นอาจขัดขวางการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวภายในประเทศ
ชาวเวียดนามรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า กล่าวว่า เธอได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี ขณะเข้าเช็กอินโรงแรมระหว่างเดินทางไปนครโฮจิมินห์ในเดือน มี.ค.
เมื่อเธอเดินทางไปถึงโรงแรม บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอินมีพนักงาน 3 คนประจำอยู่ เธอเดินไปที่เคาน์เตอร์ที่ว่างและยื่นบัตรกำนัลเข้าพักและข้อความยืนยันการจองให้พนักงานต้อนรับ แต่แทนที่พนักงานจะตรวจสอบ กลับบอกให้เธอรอโดยระบุว่าพวกเขาต้องดำเนินการขั้นตอนเช็กอินให้กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวนั้นจะมาถึงทีหลังเธอก็ตาม
“ในตอนนั้นฉันไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะคิดว่าจะต้องรอการยืนยัน ฉันเลยปล่อยให้กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเช็กอินก่อน แต่ฉันสงสัยว่าคนเวียดนามมักจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีในสถานที่ที่ส่วนใหญ่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ” นักท่องเที่ยวหญิงชาวเวียดนามกล่าว
การเลือกปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนาม รายงานระบุว่า ในปี 2563 มีร้านกาแฟแห่งหนึ่งในฮอยอันถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ให้บริการลูกค้าชาวเวียดนาม รับเฉพาะชาวต่างชาติ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้เข้าพูดคุยกับเจ้าของร้านเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติการให้บริการ ไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเมืองฮอยอัน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวกล่าวว่า รายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จาก 158 ล้านล้านด่ง (6,500 ล้านดอลลาร์) ในปี 2558 เป็น 334 ล้านล้านด่ง ในปี 2562 คิดเป็น 43% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด
ฟาน ฮวิง เฟือง ฮว่าง รองผู้อำนวยการบริษัททัวร์ชั้นนำ Vietravel กล่าวว่า ร้านอาหารบางแห่งในเวียดนามติดป้ายว่า ‘ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น’ และเมินเฉยที่จะรับลูกค้าท้องถิ่น
แม้ว่าร้านอาหารเหล่านี้จะออกมาขอโทษต่อสาธารณชนหลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขายังคงชื่นชอบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่า เจ้าหน้าที่จากบริษัททัวร์กล่าว
“การเลือกปฏิบัติเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการขับไล่นักท่องเที่ยว ยิ่งกว่าปัญหาการคิดเงินเกินเสียอีก” เจ้าหน้าที่บริษัทท่องเที่ยวระบุ
เหวียน ด่ง ฮวา รองผู้อำนวยการบริษัท Saigontourist Group กล่าวว่า คุณภาพการบริการที่ย่ำแย่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้นในปีนี้
ในไตรมาสที่ 2 ของปี ความต้องการเดินทางไปต่างประเทศของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามมีอัตราเติบโตสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือคิดเป็น 175% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันก่อนการระบาดของโควิด-19
ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามที่เดินทางไปต่างประเทศมีจำนวนมากกว่า 3.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ฮว่างกล่าวว่า ปัญหาในการปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติดีกว่าชาวเวียดนาม เกิดจากการที่ชาวต่างชาติมักใจกว้างกับการจ่ายทิป ขณะที่คนเวียดนามบางส่วนประพฤติตัวไม่เหมาะสม เช่น การไม่เข้าแถว หรือการเหลือทิ้งอาหารจำนวนมากตามบุพเฟต์
การที่ชาวเวียดนามนิยมเดินทางไปต่างประเทศนั้นส่งผลลบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ และคนในวงการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังหาวิธีที่จะดึงดูดให้คนท้องถิ่นใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น หลังจากการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัวกว่าตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศมาก
ในปี 2562 เวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวในประเทศ 85 ล้านคน ขณะที่ในปี 2565 ตัวเลขขยับขึ้นมาอยู่ที่ 101 ล้านคน
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวควรเพิ่มความสนใจกับนักท่องเที่ยวท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูงในการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกซบเซานี้.