ชาวเวียงจันทน์ตื่น! สารแอมโมเนียรั่วกลางเมือง กลิ่นคลุ้งไปไกลหลาย กม.

MGR Online - เกิดเหตุสารแอมโมเนียจากโรงงานน้ำแข็งแห่งหนึ่งในย่านที่อยู่อาศัยกลางนครหลวงเวียงจันทน์รั่วไหล ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งกินบริเวณกว้างหลายกิโลเมตร โชคดียังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง

เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วานนี้ (25 ต.ค.) เกิดเหตุสารแอมโมเนียจากโรงงานผลิตน้ำแข็งแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านเวียงจะเลิน เมืองไซเสดถา ในนครหลวงเวียงจันทน์ เกิดรั่วไหล ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งเป็นบริเวณกว้าง รัศมีของกลิ่นได้ฟุ้งกระจายไปไกลจากที่ตั้งโรงงานหลายกิโลเมตร

บ้านเวียงจะเลินเป็นย่านที่อยู่อาศัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ ประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบโรงงานน้ำแข็ง รวมถึงผู้ที่สัญจรไปมาในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากสารแอมโมเนียที่ฟุ้งลอยอยู่ในอากาศ โดยเฉพาะช่วงจากบ้านโพนพะเนาไปถึงทางโค้งบ้านเวียงจะเลิน เมื่อได้สูดดมกลิ่นเหม็นของสารแอมโมเนีย ต่างมีอาการหายใจไม่สะดวก แสบคอ แสบตา น้ำมูก น้ำตาไหล


หลังเกิดเหตุ สื่อออนไลน์ในลาวได้ช่วยกันประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนออกจากพื้นที่และหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่ทางการได้ระดมรถดับเพลิงและอาสาสมัครกู้ภัยจากหลายมูลนิธิเป็นจำนวนมาก มาช่วยกันฉีดน้ำขึ้นไปบนอากาศและพื้นที่โดยรอบตลอดทั้งคืน เพื่อบรรเทาสถานการณ์เบื้องต้น ลดความเข้มข้นของสารและกลิ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายไปกว้างขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นจากสื่อในลาวช่วงเช้าวันนี้ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยรุนแรงจากเหตุสารแอมโมเนียรั่วไหลในครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกรมเคมี กระทรวงป้องกันประเทศ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ และหาสาเหตุของการรั่วไหลของสารแอมโมเนียครั้งนี้ว่ามาจากอะไร

สารแอมโมเนีย หรือไฮโดรเจนไตรไฮไดรด์ เป็นสารที่ประกอบด้วยธาตุไนโตรเจนและไฮโดรเจน ไม่มีสี มีกลิ่นฉุน มีสถานะเป็นทั้งของเหลวและแก๊ส แต่เมื่อเป็นแก๊สจะเบากว่าอากาศ สารแอมโมเนียจะถูกใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะโรงงานปุ๋ยเคมี ส่วนโรงงานน้ำแข็งและห้องเย็นนิยมใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็นในระบบทำความเย็น เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและราคาถูกกว่าสารทำความเย็นประเภทอื่น

อย่างไรก็ตาม แอมโมเนียเป็นสารอันตราย ไอระเหยของสารแอมโมเนียจะทำให้เกิดการระคายเคืองและเกิดแผลไหม้ต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดเสมหะ มีอาการหายใจสั้น เจ็บหน้าอก จนอาจถึงชักหมดสติ และอาจทำให้เสียชีวิตได้หากหายใจเอาสารนี้เข้าไปในปริมาณมาก ถ้าร่างกายสัมผัสสารแอมโมเนียโดยตรงจะทำให้ผิวหนังและตาไหม้ สูญเสียการมองเห็น หากสัมผัสแอมโมเนียในสถานะของเหลวจะทำให้เกิดแผลไหม้เนื่องจากความเย็นจัด.