คนพม่าทะลักข้ามไปทำงานในจีนทาง “ด่านหมู่เจ้”

MGR Online - ชาวพม่าจากทั่วทุกสารทิศนับพันคน พากันไปยืนต่อคิวยาวเหยียดทุกวันที่หน้าด่านหมู่เจ้ รัฐชานเหนือ หวังทำบัตรผ่านแดนข้ามไปจีนเพื่อหางานทำในเมืองรุ่ยลี่ หลังทางการหมู่เจ้เปิดให้คนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในภาค-รัฐชาติพันธุ์อื่นนอกหมู่เจ้ สามารถข้ามพรมแดนได้ เกิดธุรกิจใหม่ "รับจ้างเข้าคิว-ขายบัตรคิว" ให้ผู้ต้องการแสวงโอกาส

ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อในพม่า โดยเฉพาะสื่อท้องถิ่นในรัฐชาน ต่างเผยแพร่ภาพประชาชนจำนวนนับพันคนไปยืนต่อแถวยาวเหยียดทุกวัน เพื่อรอรับบัตรคิวยื่นเอกสารทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว (temporary border pass) บริเวณหน้าประตูเมือง 3 แห่ง ที่เชื่อมระหว่างเมืองหมู่เจ้ เมืองชายแดนในภาคเหนือของรัฐชาน กับเมืองรุ่ยลี่ หรือเมืองมาว เขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งพัว เต๋อหง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ผู้คนเหล่านี้เดินทางมาจากทุกภาค ทุกรัฐชาติพันธุ์ของพม่า มีทั้งคนที่เป็นชาวพม่าและชนชาติพันธุ์อื่นในพม่า ทั้งหมดมีความประสงค์เดียวกัน คือต้องการออกไปหางานทำในเมืองรุ่ยลี่


ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2566 ทางการเมืองหมู่เจ้ได้อนุญาตให้ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในทุกภาค ทุกรัฐชาติพันธุ์ของพม่า สามารถทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวเพื่อเดินทางออกไปยังเมืองรุ่ยลี่ได้ โดยเสียค่าธรรมเนียมทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวประมาณคนละ 10,000-20,000 จั๊ต หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อจีนเปิดประเทศในวันที่ 8 มกราคม 2566 ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองหมู่เจ้ อนุญาตให้ทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวได้เฉพาะผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของเมืองหมู่เจ้ และเมืองน้ำคำเท่านั้น ส่วนทางการเมืองรุ่ยลี่ ได้อนุญาตให้ผู้ที่ถือบัตรผ่านแดนชั่วคราวดังกล่าว สามารถพักอาศัยอยู่ในรุ่ยลี่ได้ 6 คืน 7 วัน

ผู้ที่ต้องการข้ามไปยังเมืองรุ่ยลี่ เกือบทั้งหมดประสงค์จะเข้าไปทำงานรับจ้างรายวัน ทั้งงานกรรมกร งานก่อสร้าง ลูกจ้างร้านค้า และหากเป็นผู้หญิงยังสามารถทำงานเสิร์ฟตามร้านอาหารได้อีกด้วย โดยค่าแรงรายวันในเมืองรุ่ยลี่ ตกวันละ 80-100 หยวน


เมื่อทางการเมืองหมู่เจ้เปิดให้คนจากภูมิภาคอื่นของพม่าสามารถทำบัตรผ่านแดนข้ามไปยังเมืองรุ่ยลี่ได้ ส่งผลคนจากทั่วทุกสารทิศในพม่าต่างเดินทางมายังเมืองหมู่เจ้เพื่อแสวงหาโอกาส มีรายงานว่าตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นมา โรงแรม ที่พักทุกแห่งในเมืองหมู่เจ้มีผู้จับจองจนแน่นขนัด เพื่อรอรับบัตรคิวยื่นเอกสารทำบัตรผ่านแดนตั้งแต่เช้ามืดของทุกวัน

ประตูเมืองเชื่อมหมู่เจ้กับรุ่ยลี่ที่เปิดให้ผู้คนเดินทางผ่านเข้าออกได้ มี 3 ประตูหลัก ได้แก่ ประตูหอคำโหลง (ฉ่วยนานดอ) ประตูช้างเผือก (สิ่นผิ่ว) และประตูม่านเวียง แต่ละประตูสามารถทำบัตรผ่านแดนได้วันละไม่เกิน 200 คน ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองหมู่เจ้ใช้วิธีแจกบัตรคิวเพื่อรอยื่นเอกสารทำบัตรผ่านแดน ใครมาก่อนได้รับบัตรคิวก่อน ที่เหลือให้ถือบัตรคิวไว้รอยื่นเอกสารในวันทำการถัดไป

ช่วงแรก ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองหมู่เจ้เปิดให้ทำบัตรผ่านแดนได้เพียง 2 ประตู คือ ประตูหอคำโหลง และประตูช้างเผือก แต่เนื่องจากผู้ที่ต้องการทำบัตรผ่านแดนมีเป็นจำนวนมาก แต่ละวัน เฉพาะคนที่ไปยืนรอเพียงแค่รับบัตรก็มีจำนวนนับพันคนแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองหมู่เจ้จึงได้เปิดประตูม่านเวียงให้คนมาทำบัตรผ่านแดนเพิ่มอีก 1 แห่ง

มีรายงานว่า นอกจากธุรกิจโรงแรม ร้านค้า ในเมืองหมู่เจ้จะคึกคักขึ้นมาแล้ว ชาวเมืองหมู่เจ้หลายคนยังมีรายได้จากการรับจ้างเข้าคิว หรือขายบัตรคิว โดยคิดราคาคิวละประมาณ 1,000 จั๊ต ให้คนที่ต้องการยื่นเอกสารทำบัตรผ่านแดน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย และช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับกุมจากการขายบัตรคิวนี้ไปแล้วหลายสิบรายด้วยกัน

ในอดีต เมืองรุ่ยลี่ หมู่เจ้ และน้ำคำ เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรมาวโหลงเหมือนกัน ก่อนถูกตีเส้นแบ่งให้แยกไปขึ้นกับ 2 ประเทศ คือจีน และรัฐชานของพม่าในภายหลัง.