เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา ที่ประเทศยังคงต้องต่อสู้กับเศษซากจากสงคราม ได้เรียกร้องยูเครนอย่าใช้ระเบิดลูกปราย หลังวอชิงตันประกาศแผนส่งอาวุธดังกล่าวให้เคียฟเพื่อต่อสู้กับกองกำลังของรัสเซีย
กลุ่มด้านมนุษยธรรมประณามการตัดสินของสหรัฐฯ ที่จัดหาระเบิดลูกปราย ที่อาจไม่จุดระเบิดและอาจเป็นอันตรายต่อพลเรือนในอีกหลายปีข้างหน้า
“มันจะเป็นอันตรายมากที่สุดสำหรับชาวยูเครนเป็นเวลาหลายปี หรือนานหลายร้อยปี หากมีการใช้ระเบิดลูกปรายในพื้นที่ที่รัสเซียยึดครองในดินแดนของยูเครน” ผู้นำเขมรทวีตข้อความดังกล่าว
เขายังอ้างถึงประสบการณ์อันเจ็บปวดของกัมพูชาจากการทิ้งระเบิดลูกปรายของสหรัฐฯ ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ที่เป็นมรดกตกทอดจากต่างชาติที่ทำให้ผู้คนหลายหมื่นต้องพิการหรือเสียชีวิต
“เป็นเวลามากกว่าครึ่งศตวรรษ ยังไม่มีวิธีใดที่จะทำลายพวกมันได้ทั้งหมด” ฮุนเซนกล่าว
“ในฐานะที่ผมสงสารชาวยูเครน ผมขอเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะผู้จัดหา และประธานาธิบดียูเครนในฐานะผู้รับ อย่าใช้ระเบิดลูกปรายในสงครามเพราะเหยื่อที่แท้จริงจะเป็นชาวยูเครน” ฮุนเซน กล่าว
วอชิงตันระบุว่าได้รับการรับรองจากเคียฟว่าจะพยายามลดความเสี่ยงต่อพลเรือน โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมรับว่าการจัดหาอาวุธให้ยูเครนเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก
สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดหลายล้านลูกลงในกัมพูชาและลาวในช่วงสงครามเวียดนาม ในความพยายามที่จะโจมตีฐานคอมมิวนิสต์ และหลังจากสงครามกลางเมือง 30 ปีสิ้นสุดลงในปี 2541 กัมพูชากลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกับระเบิดมากที่สุดในโลก
ชาวกัมพูชาราว 20,000 คน เสียชีวิตในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมาจากการเหยียบกับระเบิดหรือวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด
งานเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดเหล่านั้นยังคงดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้ โดยรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะกำจัดทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดทั้งหมดภายในปี 2568
ในเดือน ม.ค. กลุ่มนักเก็บกู้ทุ่นระเบิดชาวยูเครนได้เดินทางมากัมพูชาเพื่อศึกษาเรียนรู้การเก็บกู้ทุ่นระเบิด.