เอเอฟพี - การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามชะลอตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงกระทบการส่งออก ทางการเวียดนามระบุวันนี้ (29)
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ขยายตัวที่ 3.72% ในช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. ลดลงจาก 6.42% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565
“การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่สูงนักเนื่องจากบริบทของความยากลำบากและความท้าทายจากภายในและภายนอกประเทศ” สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุในคำแถลง
“มีแนวโน้มการจ้างงานเพิ่มขึ้น แต่แรงงานและตลาดงานยังคงเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทาย ด้วยส่วนใหญ่แล้วบริษัทขาดคำสั่งซื้อ” คำแถลงระบุ
สำนักงานสถิติระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกมีคนถูกเลิกจ้างมากกว่า 240,000 คน โดยประมาณ 80% ของคนเหล่านี้ทำงานอยู่ในธุรกิจที่ลงทุนโดยต่างชาติ และ 2 ใน 3 ของคนที่ถูกเลิกจ้างทำงานในอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า
แรงงานเหล่านี้ได้เปลี่ยนไปทำงานในภาคบริการ โดยยอมรับงานที่มั่นคงน้อยกว่า สำนักงานสถิติระบุ
ประเทศมีรายได้จากการส่งออกมากกว่า 164,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งแรกของปี ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
การหดตัวอย่างรุนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีสาเหตุจากราคาที่ดินสูง การชะลออนุมัติโครงการ และปัญหาในการจัดหาเงินลงทุน กำลังเพิ่มความยากลำบากทางเศรษฐกิจ
จำนวนธุรกิจที่เข้ามาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลงถึง 63% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน กระทรวงการก่อสร้างระบุ และเกือบ 1 ใน 3 ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เลิกกิจการ
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2566 จะอยู่ที่ 6.3% เทียบกับ 8% ในปี 2565
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 6.5% แต่สำนักงานสถิติยอมรับว่าการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะเป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างสูง จากทั้งระบบการเมือง ธุรกิจ องค์กร และประชาชนทั่วประเทศ
สำหรับเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสที่ 2 ของปี ขยายตัวที่ 4.14% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.32% ในช่วง 3 เดือนแรก.