เอเอฟพี - ตำรวจในเวียดนามได้กล่าวหาผู้ต้องหา 75 คน ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหลังเกิดเหตุโจมตีด้วยอาวุธปืนที่สถานีตำรวจ 2 แห่ง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน ในเขตที่ราบสูงตอนกลางของประเทศ
ความรุนแรงจากอาวุธปืนถือเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่งในเวียดนาม ที่การครอบครองอาวุธปืนถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายสำหรับประชาชน แต่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 11 มิ.ย. กลุ่มคนขี่รถจักรยานยนต์ใช้ปืนและอาวุธอื่นๆ เข้าโจมตีสำนักงานคณะกรรมการประชาชน และสถานีตำรวจในเขต Cu Kin ของ จ.ดั๊กลัก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 2 คน และพลเรือน 3 คน
“นี่เป็นการก่อการร้ายต่อคณะบริหารประชาชน ที่ก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงเป็นพิเศษ” กระทรวงความมั่นคงสาธารณะระบุในคำแถลง
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะระบุว่าทางการได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 75 คน ในข้อหาก่อการร้าย และกำลังสอบสวนผู้ต้องสงสัยอีก 8 คน ฐานปกป้องอาชญากร
ตำรวจยึดปืนและปืนไรเฟิลรวม 23 กระบอก ระเบิดมือ 2 ลูก กระสุน 1,199 นัด และอุปกรณ์ประกอบระเบิดอื่นๆ และระบุว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นสิ่งที่ป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม
คำแถลงยังระบุว่า ตำรวจมีหลักฐานว่าผู้ต้องสงสัยได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลและองค์กรต่างชาติ
เขตที่ราบสูงตอนกลางของเวียดนามถือเป็นพื้นที่อ่อนไหวของประเทศ ด้วยเป็นที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์หลายกลุ่มและเป็นพื้นที่ที่มีประเด็นปัญหาหลากหลาย รวมถึงสิทธิที่ดิน บางชนเผ่าในพื้นที่ยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลเวียดนามใต้
ตำรวจระบุว่า พวกเขายึดธง Furlo ได้ 10 ผืน ที่เป็นขบวนการต่อต้านของชนเผ่าชาวเขา
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำกัมพูชาได้สั่งการให้กองกำลังติดอาวุธเข้าค้นหมู่บ้านบริเวณชายแดนเพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัยในเหตุกราดยิง และยังกล่าวเตือนถึงหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศให้เฝ้าระวังผู้ต้องสงสัยและอย่าให้ความช่วยเหลือแก่คนเหล่านั้น
สำหรับการลงโทษในความผิดผู้ก่อการร้ายในเวียดนามนั้นอาจรวมถึงโทษประหารชีวิต.
