ต้องใช้แต่ “เงินกีบ”! ลาวบีบทุกกิจการใน “สามเหลี่ยมทองคำ” ขู่ฟันหากละเมิด

MGR Online - รัฐบาลลาวกำชับให้ทุกร้านค้าและธุรกิจที่อยู่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ต้องใช้แต่เงินกีบชำระค่าสินค้า-บริการ หากตรวจพบว่าใครไม่ยอมรับกีบ มีบทลงโทษถึงขั้นสั่งยกเลิกกิจการและถูกปรับ

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 พล.อ.วิไล หล้าคำฟอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว ได้เดินทางขึ้นไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามกับอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่มีการพูดคุยกัน ได้แก่ การมอบนโยบายและกำชับให้ภายในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ต้องใช้แต่เงินกีบในการซื้อขาย ชำระค่าสินค้าและบริการ ตามนโยบายและการรณรงค์ของรัฐบาลที่ให้ทั่วประเทศลาวใช้แต่เงินกีบ เพื่อกระตุ้นให้เงินกีบของลาวแข็งค่าขึ้น

ในที่ประชุม นายบุนทอง แสงสีกอง หัวหน้าคณะกรรมการควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษแขวงบ่อแก้ว รายงานว่า ปัจจุบัน ธนาคารแห่ง สปป.ลาว และธนาคารพาณิชย์ของลาวจำนวนหนึ่งได้ขยายเข้ามาตั้งสำนักงานและสาขาอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมการเงิน การนำเข้า-ส่งออกสินค้า ซึ่งจะทำให้การควบคุมด้านการเงิน เงินตรา และการนำเข้าเงินทุนจากต่างประเทศ ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น


1 วัน หลังเสร็จสิ้นการประชุม ในวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทดอกงิ้วคำ เจ้าของสัมปทานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ได้ออกหนังสือแจ้งการ เลขที่ 081/ดงค. เรื่อง การใช้เงินสกุลกีบ ส่งถึงเจ้าของกิจการ ร้านค้า และพ่อค้าแม่ค้าทุกรายที่อยู่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ มีเนื้อหาดังนี้

1.สินค้าและค่าบริการทั้งหมดที่มีเครื่องหมายการค้าอย่างชัดเจนภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ ต้องระบุราคาเป็นเงินสกุลกีบ โดยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนตามอัตราอ้างอิงของธนาคารแห่ง สปป.ลาว

2.กิจการ ร้านค้าทุกแห่งต้องติดป้ายที่มีข้อความว่า “ส่งเสริมการบริโภคและใช้เงินกีบ” เป็นภาษาจีนและภาษาลาว โดยเจ้าของกิจการและร้านค้าสามารถมารับป้ายดังกล่าวได้ที่ห้อง 103 สำนักงานสภาบริหาร เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ

3.หากกิจการ ร้านค้า หรือบุคคลใด ไม่ยอมรับเงินกีบในการชำระค่าสินค้าและบริการ และได้มีเจ้าหน้าที่ของแขนงการที่เกี่ยวข้องไปตรวจพบ จะต้องถูกลงโทษถึงขั้นสั่งให้ยกเลิกกิจการและต้องจ่ายค่าปรับ


ปัจจุบัน ภาคการเงินของลาวกำลังเผชิญกับวิกฤตเงินกีบอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินสกุลของประเทศคู่ค้าหลัก เช่น เงินบาทของไทย เงินหยวนของจีน และเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งค่าเงินกีบได้สร้างสถิติต่ำสุดใหม่ขึ้นทุกวัน

ล่าสุด จากประกาศอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารการค้าต่างประเทศ ธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของลาว ประจำวันนี้ (19 มิ.ย.) อัตราขายเงินบาทอยู่ที่ 561.83 กีบต่อ 1 บาท เงินหยวนอยู่ที่ 2,624 กีบต่อ 1 หยวน และเงินดอลลาร์อยู่ที่ 18,494 กีบต่อ 1 ดอลลาร์.