วิบากกรรม "สินค้าไทย" เข้าพม่าต้องเลาะเทือกเขาเลี่ยงสู้รบเมียวดี

MGR Online - วิบากกรรมสินค้าไทยที่ขายเข้าไปในพม้าผ่านช่องทางเมียวดี-แม่สอด ต้องขนส่งผ่านถนนลูกรังคดเคี้ยว เลาะไปตามหุบเขา เพื่อเลี่ยงจุดที่กองทัพผสมกะเหรี่ยง KNLA-PDF กำลังรบหนักกับทหารพม่า เผยเหตุปะทะรุนแรงเกิดขึ้นหลังมีแนวโน้มว่าทางการ 2 ฝั่ง จะเปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ให้คนข้ามไปมาหากันได้อีกครั้ง ต้นปี 2566

วันนี้ (28 ธ.ค.) สื่อหลายแห่งในพม้า ได้รายงานสภาพความยากลำบากในการเดินทางและขนส่งสินค้าที่พม่าซื้อจากไทยผ่านช่องทางเมียวดี-แม่สอด ซึ่งตามปกติต้องใช้เส้นทางหลวงเอเชีย (AH1) จากเมียวดี ข้ามเทือกเขาดอนะ ลงไปเมืองกอกะเร็ก ต่อไปเมืองพะอัน ผ่านเมาะละแหม่ง เพื่อนำไปกระจายต่อให้ภูมิภาคอื่นๆ ที่กรุงย่างกุ้ง

แต่เนื่องจากตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ตลอดแนวทางหลวงเอเชียตั้งแต่บนเทือกเขาดอนะ ไล่ลงไปถึงเมืองกอกะเร็ก จังหวัดดูบลายา รัฐกะเหรี่ยง ได้เกิดการสู้รบอย่างหนักระหว่างทหารพม่า กับกองกำลังผสมของกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้าน (PDF) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) มีการวางระเบิดถนนและสะพานหลายจุด ส่งผลให้รถทุกชนิดไม่กล้าสัญจรผ่าน ต้องหลีกเลี่ยงโดยพยายามหาใช้เส้นทางอื่นที่ปลอดภัยกว่าในการเดินทาง


มีรายงานว่า เส้นทางที่รถส่วนใหญ่ใช้เป็นถนนบนเทือกเขาดอนะ จากเมียวดี ผ่านตำบลเถาะก่อโก เพื่อไปเมืองโจ่งโด ที่อยู่เลยจากตัวเมืองกอกะเร็กไปเล็กน้อย โดยรถจำนวนมากเริ่มเปลี่ยนมาใช้ถนนสายนี้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม หลังถนนช่วงบนเทือกเขาดอนะถูกปิดไปอย่างถาวร ในตอนเช้ามืดของวันที่ 23 ธันวาคม เพราะสถานการณ์สู้รบบนเทือกเขาและในเมืองกอกะเร็กรุนแรงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถนนที่ถูกใช้เป็นทางเลี่ยงดังกล่าว ซึ่งสื่อในพม่าเรียกว่า “ทางหลวงเอเชียเส้นใหม่” เป็นถนนลูกรัง ลัดเลาะไปตามหุบเขา ซึ่งทั้งคับแคบ ขรุขระ คดเคี้ยว สูงชัน และอันตราย ที่สำคัญคือเป็นทางที่อ้อมมาก เมื่อเทียบกับเส้นทางหลวงเอเชียเดิม แต่รถทุกคัน โดยเฉพาะรถขนส่งสินค้า ซึ่งมีทั้งรถบรรทุกขนาดกลาง และขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้ เพื่อนำสินค้าไปส่งให้ถึงที่หมาย

มีรายงานว่า การสู้รบบนเทือกเขาดอนะ และในเมืองกอกะเร็กจนถึงขณะนี้ยังไม่สงบ






อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า วันนี้ (28 ธ.ค.) สำนักงานการไฟฟ้าพม่า ประจำเมืองเมียวดี ได้นำปลั๊กพ่วงเดินสายออกมานอกอาคารสำนักงานจำนวนหลายจุด เพื่อเปิดให้ประชาชนได้นำโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นมาชาร์จไฟโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้ เนื่องจากหลังเกิดเหตุสถานีไฟฟ้าย่อย ในตำบลติงกานหญี่หน่อง จังหวัดเมียวดี ถูกทิ้งระเบิดจนได้รับความเสียหาย เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ทำให้กระแสไฟฟ้าที่ป้อนเข้าไปตัวเมืองเมียวดีมีไม่เพียงพอ และไม่เสถียร สร้างความยากลำบากแก่ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อสื่อสาร หรือติดตามข้อมูลข่าวสาร

เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.40 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม โดยกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้าน (PDF) ได้นำโดรนบรรทุกระเบิดมาทิ้งลงสถานีไฟฟ้าย่อยติงกานหญี่หน่อง แรงระเบิดทำให้เกิดไฟไหม้เป็นวงกว้าง หม้อแปลงไฟฟ้า 3 ลูก ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายจนใช้การไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาดับไฟนานจนถึงเวลา 03.10 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม จึงสามารถควบคุมเพลิงได้

ความเสียหายจากแรงระเบิดทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในหลายอำเภอของจังหวัดเมียวดี โดยเฉพาะในตัวเมืองเมียวดีซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของจังหวัด ทำให้ต้องดึงไฟฟ้าจากสถานีอื่นมาป้อน แต่กระแสไฟฟ้าที่ได้รับมาไม่เสถียร






การทิ้งระเบิดสถานีไฟฟ้าย่อยติงกานหญี่หน่อง เมื่อเย็นวันที่ 15 ธันวาคม เกิดขึ้นหลังมีความชัดเจนว่าทางการเมืองเมียวดีและอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้ข้อสรุปว่าจะเปิดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 ให้ประชาชนจาก 2 ฝั่ง สามารถสัญจรข้ามไปมาหากันได้อีกครั้ง โดยคาดว่าจะเปิดประมาณวันที่ 1 มกราคม 2566 หลังจากสะพานแห่งนี้ถูกปิดมานานกว่า 2 ปี นับแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2563

วันที่ 14 ธันวาคม 2565 ทางการเมืองเมียวดี ได้ระดมเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดตัวสะพานที่อยู่ในฝั่งเมียวดี ตั้งแต่พื้นที่เชิงสะพาน ขึ้นมาจนถึงจุดกึ่งกลางสะพาน

หลังสื่อในพม่าได้เผยแพร่ภาพการทำความสะอาดสะพานออกไปได้เพียงวันเดียว ถึงตอนเย็นวันรุ่งขึ้น (15 ธ.ค.) ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สถานีไฟฟ้าย่อยติงกานหญี่หน่อง นอกตัวเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองหลักแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในแนวเส้นทางหลวงเอเชีย ช่วงก่อนขึ้นเทือกเขาดอนะ และจากนั้นเป็นต้นมาก็เกิดการปะทะกันขึ้นอย่างหนักระหว่างกองกำลังผสมของ KNLA และ PDF กับทหารพม่า บนเทือกเขาดอนะ และในตัวเมืองกอกะเร็ก

วันที่ 16 ธันวาคม มีการวางระเบิดสะพานแห่งหนึ่งในเส้นทางหลวงเอเชีย บนเทือกเขาดอนะ จนได้รับความเสียหาย ใช้การไม่ได้ ทำให้ผู้ใช้รถที่จำเป็นต้องสัญจรผ่านถนนสายนี้เกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าขับผ่าน จนเกิดเป็นภาพรถจำนวนมากติดรอเป็นแถวยาวเหยียดตั้งแต่เช้าของวันที่ 23 ธันวาคม กระทั่งรถทุกคันต้องหาทางเลี่ยงไปใช้ถนนอ้อมบนเทือกเขาดอนะดังกล่าว.