ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโละโคะโพสต์เปิดเผยว่า “พระอาจารย์ชิตพาพี่น้องกะเหรี่ยงบ้านโละโคะสวดมนต์ถวายพระพร “ในหลวง-พระราชินี-กรมสมเด็จพระเทพฯ-เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ-กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ขอให้หายจากพระอาการประชวร
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. เฟซบุ๊กบัญชี “มึเชอะ โละโคะ ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของนางสาว มึเชอะ รักไทย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโละโคะ อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร โพสต์เปิดเผยว่า “พระอาจารย์ชิตพาพี่น้องกะเหรี่ยงบ้านโละโคะถวายกำลังใจแด่ในหลวง พระราชนี พระเทพ พระองค์โสม พระองค์ภา ขอให้หายจากพระอาการประชวร พวกเราได้พระบารมีพระองค์ท่านคุ้มครองช่วยเหลือพวกเราพี่น้องกะเหรี่ยงพื้นที่ห่างไกลอยู่กลางป่าเขา พระองค์ท่านช่วยพวกเราชาวกะเหรี่ยงชาวไทย และประชาชนทุกคนสุขสบายใต้พระบารมีพระองค์ท่าน พระองค์ท่านช่วยมาเยอะวันนี้ถึงเวลาที่พวกเราจะทำได้ด้วยการถวายกำลังใจแด่ในหลวง และขอให้พระองค์ภาทรงหายประชวรไวๆ ค่ะ”
ผู้สื่อข่าวจึงทำการสอบถามไปยังนางสาวมึเชอะ รักไทย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโละโคะ จึงทราบว่า พระอาจารย์วิชิต โชติโก นำคณะสงฆ์ ผู้นำชุมชน ชาวบ้านโละโคะ ชาวกะเหรี่ยงทั้งหมด มีนายอำเภอโกสัมพีนครเป็นประธาน และเจ้าหน้าที่อุทยานครองวังเจ้า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหนองแดน ร่วมกันสวดเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในกาลนี้ สวดบทโพชฌงค์ ถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่กำลังประชวรพักรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ให้พระอาการดีขึ้นตามลำดับและหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ขอให้ทุกพระองค์ทรงพระเจริญ
ตามที่สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ลงวันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร ความทราบแล้วนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม มีพระบัญชาโปรดให้สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมแจ้งวัดทุกวัดทั่วราชอาณาจักร และวัดไทยในต่างประเทศ ให้คณะสงฆ์พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาเป็นพิเศษ เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
พระอาจารย์วิชิต โชติโก จึงนำคณะสงฆ์ และชาวกะเหรี่ยงบ้านโละโคะ โดยฝ่ายข้าราชการมีนายอำเภอโกสัมพีนครเป็นประธาน ร่วมกันสวดเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล ตามรายละเอียดข้างต้นแล้วนั้น สำหรับบ้านโละโคะ เป็นหมู่บ้านชุมชนกะเหรี่ยง ตั้งอยู่พื้นที่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งหมู่บ้านตั้งแต่ พ.ศ. 2461 มีประชากร 335 คน 94 หลังคาเรือน ประกอบอาชีพเกษตรกรปลูกพืชผักเลี้ยงสัตว์ โดยมีกิจกรรมจุดเด่นที่สำคัญคือการขึ้นผึ้งป่าเดือนห้า ที่ขึ้นเอาน้ำผึ้งแบบไม่ทำลายรัง เพื่อให้ผึ้งได้กลับมาทำรังต่อ เป็นประเพณีที่หาดูได้ยากถึงขั้นรายการ เที่ยวละไมไทยแลนด์เวิลด์ ของคุณน้ำผึ้ง หม่อมหลวงสราลี กิติยากร (เป็นพระขนิษฐาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และเป็นพระมาตุจฉา (น้าหญิง) ใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา) เคยมาพัก ณ ที่พักสงฆ์ถ้ำเทพพนม และถ่ายทำประเพณีปีใหม่ชาวกะเหรี่ยงและการขึ้นตีผึ้ง เผยแผ่ออกรายการ เที่ยวละไมไทยแลนด์เวิลด์ ทางช่อง 3 (https://youtu.be/0Y_1P8kSC6I)
ชาวกะเหรี่ยงบ้านโละโคะนับถือศาสนาพุทธ สายวัดป่ากรรมฐาน ปัจจุบันมีพระอาจารย์วิชิต โชติโก (อายุ 58 ปี 38 พรรษา) และคณะสงฆ์ 3 รูป จำพรรษาและดูแลรักษาป่า ณ ที่พักสงฆ์ถ้ำเทพพนม มีเสนาสนะเหมาะแก่การหลีกเร้นภาวนา มีกุฏิเล็กๆ และทางเดินจงกรมภาวนา จึงทำให้มีพระพ่อแม่ครูบาอาจารย์จำนวนมากมาปฏิบัติภาวนา เช่น หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อยสามผาน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี พระญาณวิศิษฎ์ (หลวงพ่อทอง จันทสิริ) อดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ พระอาจารย์เด่น นันทิโย (เด่น ธรรมเถื่อน) สำนักสงฆ์ดอยภูกา ตำบลด่านแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พระอาจารย์บุญช่วย ปุญญวันโต วัดภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ที่พักสงฆ์ถ้ำเทพพนม เป็นที่พักสงฆ์ที่เรียบง่ายแบบวิถีพระป่าแต่เข้มงวดในพระธรรมวินัย ข้อวัตรพระกรรมฐาน จึงทำให้มีคณะญาติโยมลูกศิษย์พระกรรมฐานจำนวนมากมาพักปฏิบัติภาวนาอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ยังมีพื้นป่าธรรมชาติอันแสนสงบ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์และเหล่าสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะชะนีที่ส่งเสียงร้องตอนเช้าๆ นับว่าเป็นสัปปายะ สงบเหมาะแก่การสร้างบุญกุศลโดยแท้จริง