MGR Online - ชาวเมือง และแรงงานภาคบริการของบ่อน-สถานบันเทิงในเมืองเล่าก์ก่าย พากันขนข้าวของอพยพหนีออกนอกเมืองเป็นผึ้งแตกรัง เหตุหวั่นสงครามระหว่างทหารพม่ากับกองทัพโกก้างแพร่ลามเข้ามาในตัวเมือง ส่งผลให้ถนนทุกสายที่มุ่งหน้าออกนอกเล่าก์ก่าย รถติดยาวเหยียด
วานนี้ (6 ธ.ค.) เกิดเหตุชาวโกก้าง และแรงงานต่างถิ่น ต่างชาติพันธุ์ ที่ทำงานบริการอยู่ในบ่อนการพนัน สถานบันเทิง ตลอดจนลูกจ้างบริษัท ห้างร้านทุกแห่งภายในเมืองเล่าก์ก่าย พากันเร่งขนข้าวของเครื่องใช้อพยพออกนอกตัวเมือง ตั้งแต่เช้ามืดต่อเนื่องถึงช่วงหัวค่ำ ส่งผลให้ถนนทุกสายที่ใช้ออกนอกตัวเมืองเล่าก์ก่าย ทั้งเส้นทางที่จะไปยังเมืองกุ๋นโหลง เมืองแสนหวี ล่าเสี้ยว มีรถเต็มพื้นที่ ติดยาวเหยียดไปตลอดเส้นทาง
เล่าก์ก่ายเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองตนเองชนชาติโกก้าง ตั้งอยู่ชายแดนพม่า-จีน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐชาน ฝั่งตรงข้ามเมืองเล่าก์ก่ายเป็นอำเภอเจิ้นคัง จังหวัดหลินชาง มณฑลยูนนาน
เหตุผลของการอพยพของชาวโกก้าง และแรงงานที่ทำงานอยู่ในเมืองเล่าก์ก่าย จนเป็นเหมือนผึ้งแตกรังครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อ 2 วันก่อน ได้เกิดข่าวลือสะพัดไปทั่วเมืองเล่าก์ก่าย ว่า ทหารของกองทัพโกก้าง (MNDAA) ซึ่งกำลังรบหนักอยู่กับกองทัพพม่า ได้ขยายแนวรบ และกำลังจะรุกเข้ามายึดเมืองเล่าก์ก่าย ทำให้แรงงานเหล่านี้เกิดความหวาดกลัว ตัดสินใจเก็บข้าวของหลบหนีออกนอกตัวเมือง
มีรายงานว่าตั้งแต่เช้ามืด ผู้คนจำนวนมากพากันไปยังสถานีรถรับจ้างซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างโรงแรม Laukkai City เพื่อว่าจ้างรถยนต์ประจำทางซึ่งวิ่งรับส่งผู้โดยสารจากเมืองเล่าก์ก่ายไปยังเมืองล่าเสี้ยว จนรถทุกคันถูกจองคิวเต็มทั้งหมด รถแต่ละคันมีผู้โดยสารมากกว่า 4-5 คน
กระทั่งช่วงบ่าย ค่าโดยสารระหว่างเล่าก์ก่าย-ล่าเสี้ยว ซึ่งปกติคนขับรถคิดจากผู้โดยสารคนละ 6 หมื่นจั๊ต ได้พุ่งสูงขึ้นไปถึงคนละ 1.5 แสนจั๊ต แต่ก็ยังมีคนยอมสู้ราคา เพื่อต้องการเดินทางออกนอกตัวเมือง
โกก้างคือกลุ่มชาวจีนฮั่นที่อพยพลงมาตั้งหลักปักฐาน สร้างบ้านเมืองอยู่บริเวณชายแดนรัฐชานเหนือ มาตั้งแต่เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน โดยมีเล่าก์ก่ายเป็นเมืองหลวง มีกำลังทหารเป็นของตนเองใช้ชื่อว่ากองทัพโกก้าง หรือ MNDAA (Myanmar National Democratic Alliance Army)
เมื่อกลางปี 2552 รัฐบาลพม่าได้กดดันให้กองทัพโกก้างแปลงสถานะเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force : BGF) ซึ่งต้องขึ้นตรงกับกองทัพพม่า ทำให้เกิดความขัดแย้งในกองทัพโกก้าง จนแตกออกเป็น 2 ฝ่าย
กองกำลังส่วนหนึ่งที่ยอมแปลงสภาพเป็น BGF ได้เข้าดูแลเมืองหลวงเล่าก์ก่าย และวางแนวทางพัฒนาโดยสนับสนุนให้มีการลงทุนกิจการกาสิโน และธุรกิจบริการครบวงจร เพื่อสร้างรายได้ให้เมือง มีการชักชวนชาวพม่าจากต่างภาคต่างรัฐ ตลอดจนหญิงสาวหน้าตาดีจำนวนมากจากประเทศต่างๆ รวมถึงจากประเทศไทย ให้เข้าไปทำงานบริการในเมืองเล่าก์ก่าย
ส่วนทหารกองทัพโกก้างที่ไม่ยอมเปลี่ยนเป็น BGF ได้ย้ายขึ้นไปตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองโก จังหวัดหมู่เจ้ ซึ่งอยู่ทางเหนือขึ้นไปจากเมืองเล่าก์ก่าย และยังคงจับอาวุธต่อสู้อยู่กับกองทัพพม่าจนถึงทุกวันนี้
ก่อนหน้าที่จะเกิดข่าวลือขึ้นมานั้น ช่วงวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2565 กองทัพโกก้างได้ขยายแนวรบลงมายังบริเวณใกล้กับเมืองชิงส่วยเหอ ประตูการค้าระหว่างพม่า-จีนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ลงมาทางใต้จากเมืองเล่าก์ก่าย การรบที่ทุ่งชิงส่วยเหอ ดำเนินไปอย่างรุนแรง และมีรายงานว่า ทหารโกก้างเป็นฝ่ายได้เปรียบสามารถสังหารและจับกุมทหารพม่าได้เป็นจำนวนมาก จนเกิดความวิตกกังวลกันว่าจะมีการขยายแนวรบต่อขึ้นมาทางเหนือ ลามเข้ามาถึงในเมืองเล่าก์ก่าย
ช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) ฝ่ายบริหารเมืองเล่าก์ก่าย ได้ออกแถลงการณ์เป็นภาษาจีน ระบุว่า ข่าวลือที่ว่าจะเกิดการรบขึ้นในเมืองเล่าก์ก่ายนั้นไม่เป็นความจริง กองกำลังพิทักษ์ชายแดนยังคงปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในเมืองเล่าก์ก่ายอยู่อย่างเต็มความสามารถ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกคนมีสติ กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.