MGR Online - ธนาคารกลาง “ลาว-จีน” เซ็น MOU แต่งตั้งธนาคารกลางชำระบัญชีเงินหยวน ขยายช่องทางให้เงินหยวนไหลเข้าลาวได้ง่ายขึ้น ก่อนดันให้การค้า การลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ เปลี่ยนมาใช้เงินหยวนโดยตรง
วันที่ 7 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้เผยแพร่ข่าวการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในรูปแบบจดหมายเวียน ระหว่างบุนเหลือ สินไซวอละวง ผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป.ลาว กับอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน โดยธนาคารกลางของทั้ง 2 ประเทศ คือ ลาวและจีน ได้ตกลงแต่งตั้งธนาคารเพื่อการชำระบัญชีเงินหยวนระหว่างกัน
รายละเอียดของเนื้อข่าวระบุสั้นๆ เพียงว่า การลงนามใน MOU ครั้งนี้จะเป็นพื้นฐานอันสำคัญให้แก่ความร่วมมือในการบริหารการเงินระหว่างลาวและจีน โดยเฉพาะการควบคุมการชำระบัญชีข้ามแดนของลาวกับจีน ซึ่งจะทำให้การชำระบัญชีข้ามแดนของทั้ง 2 ประเทศ ได้รับการติดตาม รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างครบถ้วนรอบด้าน
ที่สำคัญ ยังเป็นการช่วยผลักดันและส่งเสริมให้วิสาหกิจและสถาบันการเงินของ 2 ประเทศ ใช้เงินหยวนในการทำธุรกิจข้ามแดน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การค้า การลงทุนของทั้งสองฝ่ายในอนาคต
MOU ที่เพิ่งเซ็นกันระหว่างธนาคารกลางของลาวและจีนครั้งนี้ เป็นความคืบหน้าอีกระดับหนึ่งหลังจากเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 ธนาคารกลางของลาวในสมัยที่มีสอนไซ สิดพะไซ เป็นผู้ว่าการ ได้เคยลงนามร่วมกับอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน ในสัญญาว่าด้วยความร่วมมือส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นระหว่างธนาคารกลางของ 2 ประเทศ
สัญญาครั้งนั้น ผู้ว่าธนาคารกลางของ 2 ประเทศ ได้ไปเซ็นกันที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และทองลุน สีสุลิด เมื่อครั้งยังเป็นนายกรัฐมนตรีลาว ร่วมเป็นสักขีพยาน
เนื้อหาในสัญญาเป็นการเพิ่มบทบาทเงินหยวนและเงินกีบ ให้สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศได้โดยตรง เปิดช่องให้พ่อค้าและนักลงทุนจีนสามารถนำเงินหยวนเข้ามาจ่ายเป็นค่าสินค้าหรือลงทุนในลาวได้โดยไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงินกีบก่อน รวมถึงให้ธนาคารพาณิชย์ของลาว เพิ่มบัญชีเงินฝากที่เป็นเงินหยวนขึ้นมาอีก 1 สกุล จากก่อนหน้านั้น ธนาคารพาณิชย์ในลาวได้แยกบัญชีเงินฝากออกเป็น 3 สกุล ได้แก่ บัญชีเงินกีบ บัญชีเงินดอลลาร์ และบัญชีเงินบาท.