MGR Online - เผยภาพตึกสูงที่สุดของศูนย์กลางการเงินในเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม เมืองธุรกิจด่านแรกของทางรถไฟลาว-จีน ล่าสุด โครงสร้างอาคารสูง 131.3 เมตร สร้างสำเร็จ ท่ามกลางหลายอุปสรรคจากการระบาดของโควิด-19
วานนี้ (20 เม.ย.) เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม ได้เผยแพร่ความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารแฝด IFC ตึก A ซึ่งเป็นอาคารสูงที่สุดของเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ โดยระบุว่าสามารถสร้างโครงสร้างของตัวตึกสำเร็จแล้ว ท่ามกลางอุปสรรคต่างๆ หลากหลายประการ
อาคารแห่งนี้เป็นตึกสูง 35 ชั้น ความสูงรวม 131.3 เมตร ตั้งอยู่ในศูนย์กลางการเงิน ย่านใจกลางธุรกิจ (Central Business District : CBD) ของเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม โดยชั้น 1-5 จะถูกใช้เป็นห้องเพื่อการพาณิชย์ ส่วนชั้น 6-35 เป็นอาคารสำนักงาน
เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม ระบุว่า การก่อสร้างอาคารแห่งนี้ต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น การขาดแคลนแรงงาน ปัญหาในการนำเข้าวัสดุก่อสร้าง แต่การก่อสร้างก็ยังคงเดินหน้า
เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม ตั้งอยู่บนพื้นที่ 34.2 ตารางกิโลเมตร (21,375 ไร่) ริมถนน R3a และติดกับสถานีรถไฟบ่อเต็น ของทางรถไฟลาว-จีน อยู่ห่างจากชายแดนลาว-จีน ที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ประมาณ 8 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนไทย-ลาว (เชียงของ-ห้วยทราย) 228 กิโลเมตร
เดิมรัฐบาลลาวให้สัมปทานพัฒนาพื้นที่นี้แก่บริษัทฟุกฮิง ทราเวล จากฮ่องกง เมื่อปี 2546 สร้างเป็น “เขตเศรษฐกิจเฉพาะบ่อเต็นแดนคำ” เปิดให้บริการในปี 2550 โดยมีจุดขายคือกาสิโน แต่ปรากฏว่าหลังเปิดได้ไม่นานได้เกิดปัญหาภายในขึ้น รัฐบาลลาวจึงยึดสัมปทานคืน และนำมามอบให้กลุ่มบริษัทยูนนาน ไห่เฉิง (Haicheng Group) ดำเนินการต่อในปี 2554
ยูนนาน ไห่เฉิง ได้เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น “เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม” และปรับรูปแบบโครงการ โดยสร้างเป็นศูนย์การค้าและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบครบวงจร ภายในมีศูนย์กลางการเงิน การค้า การลงทุน เขตปลอดภาษี เขตส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โรงแรม และเขตอุตสาหกรรม โดยไม่มีธุรกิจกาสิโน
ยูนนาน ไห่เฉิง วางแผนการพัฒนา “เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม” ไว้ว่าต้องใช้เวลาประมาณ 10-15 ปี ใช้เงินลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านหยวน และตั้งเป้าหมายว่าเมื่อเริ่มเปิดให้บริการ จะดึงนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ และจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังเขตนี้ไม่ต่ำกว่าปีละ 5 หมื่นคน.
