โควิดระบาดทำเด็กกัมพูชาสูญเสียการเรียนรู้

ซินหวา - กระทรวงศึกษาธิการของกัมพูชาและกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ (UNICEF) ได้ร่วมกันเปิดเผยข้อค้นพบใหม่ที่น่าตกใจเกี่ยวกับการสูญเสียการเรียนรู้ที่เด็กนักเรียนชาวกัมพูชาประสบในช่วงการระบาดของโควิด-19

ข้อค้นพบดังกล่าวมาจากการประเมินการเรียนรู้ในเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครั้งล่าสุดของกระทรวงศึกษาธิการที่ดำเนินการในเดือน พ.ย.2564 กับนักเรียนมากกว่า 6,000 คน จากโรงเรียน 230 แห่งทั่วประเทศ และพบว่าเด็กๆ มีระดับการเรียนรู้ต่ำกว่ามาตรฐานในช่วงการระบาดของโควิด-19

“เมื่อเปรียบเทียบกับการประเมินการเรียนรู้ครั้งสุดท้ายในปี 2559 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนที่ไม่ผ่านความสามารถขั้นพื้นฐานในวิชาภาษาเขมรเพิ่มขึ้นจาก 34% เป็น 45% และในวิชาคณิตศาสตร์จาก 49% เป็น 74%” คำแถลงร่วมระบุ

โรงเรียนในกัมพูชาต้องปิดนาน 250 วันในช่วงระหว่างปี 2563-2564 หรือเทียบเท่ากับช่วงเวลาเกือบ 2 ใน 3 ของ 2 ปีการศึกษา และผลประเมินการเรียนรู้เผยว่า แม้นักเรียนทุกคนจะประสบกับการสูญเสียการเรียนรู้จากการปิดโรงเรียน แต่ผลกระทบกลับเกิดขึ้นอย่างไม่เท่าเทียมกัน

“นี่เป็นผลลัพธ์ที่น่ากังวล เราทำงานอย่างหนักร่วมกับพันธมิตรทั้งหมดของเราในการกำหนดมาตรการการเรียนรู้ทางไกลให้นักเรียนเมื่อโรงเรียนปิดในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการกล่าว

รัฐมนตรียังระบุว่า ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่ามาตรการเหล่านี้ช่วยรักษาระดับการเรียนรู้ให้เด็กนักเรียนหลายคน แต่ผลการประเมินการเรียนรู้ได้ยืนยันว่ากิจกรรมเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยสิ่งที่เด็กสูญเสียไปได้ทั้งหมดเมื่อพวกเขาไม่ได้เรียนรู้จากในห้องเรียน

ตัวแทนของยูนิเซฟประจำกัมพูชากล่าวว่า การสูญเสียการเรียนรู้ถือเป็นหนึ่งในผลเสียร้ายแรงที่สุดจากการระบาดของโควิด-19

“เราต้องลงทุนมากขึ้นในวิชาคณิตศาสตร์และภาษาเขมร ซึ่งเด็กเล็กจำเป็นต้องมีรากฐานที่มั่นคงในวิชาหลักเหล่านี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระดับชั้นถัดไป ที่ยูนิเซฟ เราให้คำมั่นว่าจะทุ่มความพยายามทั้งหมดกับพันธมิตรของเราเพื่อช่วยทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น” ตัวแทนยูนิเซฟประจำกัมพูชา กล่าว

ทั้งนี้ โรงเรียนทั่วประเทศในกัมพูชากลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งตั้งแต่เดือน พ.ย.2564 หลังประชากรส่วนใหญ่ของประเทศได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19.