xs
xsm
sm
md
lg

ยักษ์ใหญ่พลังงาน ‘โททาล-เชฟรอน’ โบกมือลาพม่า ชี้สิทธิมนุษยชนเสื่อมถอยนับตั้งแต่รัฐประหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - โททาล เอนเนอร์ยีส์ (Total Energies) และเชฟรอน (Chevron) บริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก 2 แห่ง กล่าวว่า พวกเขากำลังออกจากพม่า โดยอ้างถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมที่เสื่อมถอยลงนับตั้งแต่กองทัพของประเทศโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากบริษัทฝรั่งเศสเรียกร้องการคว่ำบาตรจากนานาชาติโดยมุ่งเป้าไปยังภาคน้ำมันและก๊าซ ที่ยังคงเป็นหนึ่งในแหล่งทุนหลักของรัฐบาลทหาร นอกจากนี้ ยังเกิดขึ้น 1 เดือนหลังสำนักข่าวเอพีรายงานเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันและก๊าซกับทั้ง 2 บริษัท และการต่อต้านจากสหรัฐฯ และฝรั่งเศส

โททาล และเชฟรอนถูกกดดันมากขึ้นจากบทบาทของพวกเขาในการดำเนินการที่โครงการแหล่งก๊าซยาดานา (Yadana) ที่อยู่นอกชายฝั่ง พร้อมกับบริษัทน้ำมันและก๊าซพม่า (Myanmar Oil and Gas Enterprise - MOGE) ของรัฐ และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ของไทย โดยโททาลถือหุ้นใหญ่และดำเนินงานในโครงการ ขณะที่ MOGE รวบรวมรายได้ในนามของรัฐบาล

โททาล กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะกระบวนการถอนตัวจะเสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน ส่วนเชฟรอนไม่ได้ระบุกรอบเวลากับสิ่งที่บริษัทอธิบายว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงตามระเบียบและแผนที่วางไว้ซึ่งจะนำไปสู่การออกจากประเทศ

“สถานการณ์เกี่ยวกับหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชนในพม่าเสื่อมถอยลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และถึงแม้จะมีขบวนการอารยะขัดขืน แต่รัฐบาลทหารยังคงกุมอำนาจ และจากการวิเคราะห์ของเรานั่นเป็นสิ่งที่น่าเสียดายในระยะยาว” โททาล ระบุ

นับตั้งแต่การยึดอำนาจ กองทัพดำเนินการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างรุนแรง ลักพาตัวชายหนุ่มและเด็กชาย สังหารเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และทรมานนักโทษ

อดีตพนักงานของบริษัทโททาลในพม่าที่ต่อต้านความสัมพันธ์ของบริษัทกับรัฐบาลทหารกล่าวว่า เธอรู้สึกตกใจแต่ก็พอใจกับการตัดสินใจดังกล่าว แม้ว่าเธอจะยอมรับว่าการหางานทำที่อื่นนั้นเป็นเรื่องยาก

“ในฐานะพนักงานที่ยังทำงานให้โททาล นี่เป็นข่าวร้าย แม้ว่าพวกเขาจะต่อต้านเผด็จการหรือต่อสู้กับกองทัพก็ตาม แต่สำหรับฉันในฐานะคนธรรมดาและไม่ใช่พนักงาน ฉันจะบอกว่ามันเป็นข่าวดี” อดีตพนักงานโททาล กล่าวกับเอพี

โททาลกล่าวว่า บริษัทจะถอนตัวโดยไม่มีค่าตอบแทนในรูปตัวเงินและมอบผลตอบแทนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายอื่นๆ

ราว 50% ของสกุลเงินต่างประเทศของพม่า มาจากรายได้จากก๊าซธรรมชาติ โดย MOGE คาดว่าจะมีรายได้ 1,500 ล้านดอลลาร์จากโครงการนอกชายฝั่งและท่อส่งน้ำมันในปี 2564-2565 ตามการคาดการณ์ของรัฐบาลพม่า การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และยุโรปก่อนหน้านี้ต่อกองทัพพม่า ไม่รวมถึงน้ำมันและก๊าซ

ในคำแถลงที่เผยแพร่ไม่นานหลังการประกาศของโททาล เชฟรอนกล่าวว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะออกจากประเทศตามสถานการณ์ ทั้งนี้ บริษัทได้ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกล่าวว่า บริษัทจะปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ

ด้านฮิวแมนไรท์วอทช์ได้กล่าวยินดีกับการตัดสินใจที่เกิดขึ้นดังกล่าว

“ขั้นตอนต่อไปคือทำให้แน่ใจว่ารายได้จากก๊าซจะไม่กลายเป็นทุนให้การกระทำที่โหดร้ายเหล่านั้น” เคน รอธ ผู้อำนวยการบริหารของฮิวแมนไรท์ วอทช์ กล่าว

บริษัท ปตส.สผ.ของไทย กล่าวว่ากำลังพิจารณาทางเลือก โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงานของไทยและพม่า และป้องกันผลกระทบต่อความต้องการด้านพลังงานสำหรับการดำรงชีวิตของประชาชนใน 2 ประเทศ

แหล่งก๊าซยาดานาคาดว่าจะหมดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และใกล้จะสิ้นสุดการดำเนินการแล้ว ก่อนหน้านี้ 2 บริษัทได้ระงับการจ่ายเงินปันผลสำหรับโครงการพม่า แต่การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างจำกัดต่อรายได้ของ MOGE หรือรัฐบาลที่ทหารควบคุมอยู่.


กำลังโหลดความคิดเห็น