xs
xsm
sm
md
lg

PTC จ่อเข้าเทรด mai ในไตรมาส 1 นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘พรีเมียร์ แทงค์ฯ’ เตรียมขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าระดมทุนใน mai ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ ชี้เงินที่ได้จากการระดมทุนใช้คืนหนี้และลงทุนก่อสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังน้ำมันที่ศรีสะเกษ รวมทั้งศึกษาในการร่วมลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเสริมรายได้

นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ผู้ประกอบธุรกิจคลังน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรับ เก็บ ผสม และจ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่สถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วภาคอีสาน เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คาดว่า PTC จะเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอภายในไตรมาส 1/2565

ปัจจุบัน พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น มีทุนจดทะเบียน 205 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้น IP0 จำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ในการลงทุนและชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ


ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน คือ 1. การเพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-จ่ายน้ำมัน รองรับวิธีการขนส่งน้ำมันที่หลากหลาย และเพิ่มจำนวนสถานีบริการที่มารับน้ำมันจากคลังของบริษัทฯ 2. มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบพลังงานเพื่อให้ทุกพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียมกัน และ 3. สร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ และพันธกิจ เพื่อกระจายฐานรายได้ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง

นายวีรวัฒน์กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างวางแผนขยายตลาดเพื่อแสวงหาลูกค้าในกลุ่มสถานีบริการน้ำมันรายใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยใช้บริการรับน้ำมันจากคลังของบริษัทฯ หรือเข้ามารับในปริมาณไม่มาก เพื่อลดผลกระทบจากการสูญเสียลูกค้าและสร้างการเติบโตในอนาคต เนื่องจากเทรนด์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จะทำให้การใช้น้ำมันลดลง คาดว่าจะใช้เวลา 5-10 ปีจึงจะเห็นผลกระทบที่ชัดเจน ขณะเดียวกันบริษัทน้ำมันจะลดการลงทุนสร้างคลังน้ำมันด้วยทำให้เป็นโอกาสดีในการใช้บริการคลังน้ำมันของบริษัท


นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าตามนโยบายการส่งเสริมจากภาครัฐ รวมทั้งการให้บริการคลังเก็บสินค้าอื่น เช่น เอทานอลหรือสารเคมีต่างๆ ล่าสุดบริษัทมีแผนที่จะก่อสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษ ใช้เงินลงทุน 110 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในด้านการลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันของลูกค้า ด้วยการเพิ่มช่องทางการขนส่งน้ำมันให้แก่ลูกค้า นอกเหนือจากการให้บริการการรับน้ำมันทางรถบรรทุกเพียงทางเดียวเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต


ปัจจุบันบริษัทมีคลังน้ำมันจำนวน 2 แห่ง คือคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดขอนแก่นที่อำเภอน้ำพอง ความจุ 9 ล้านลิตร รองรับการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงได้หลากหลายประเภทตามความต้องการที่มีในประเทศไทย โดยคลังน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวมีความสามารถจ่ายน้ำมันให้รถบรรทุกได้สูงสุดประมาณปีละ 1,400 ล้านลิตร และคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดศรีสะเกษ มีปริมาตรรวมประมาณ 9.70 ล้านลิตร สามารถรองรับการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป น้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐาน และน้ำมันชีวภาพได้หลากหลายประเภท และให้บริการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐานตามสูตรที่ลูกค้าต้องการที่คลังศรีสะเกษ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถให้บริการแก่สถานีบริการน้ำมันภายใต้เครื่องหมายการค้าของผู้ค้าน้ำมันได้หลายราย และกลายเป็นผู้ให้บริการจ่ายน้ำมันที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน-ล่าง

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ 166.29 ล้านบาท ลดลง 11.13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงตามยอดจำหน่ายน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 72.23 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.98%


กำลังโหลดความคิดเห็น