MGR Online - ลาวดันเต็มที่หวังให้ทั่วประเทศเปลี่ยนใช้รถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุด เตรียมเสนอมาตรการภาษีกระตุ้นเป็นแพ็คเกจ นำเข้าเหลือ 0% ลดทั้ง VAT และภาษีเงินได้ผู้ขายรถไฟฟ้า แต่กับรถใช้น้ำมัน ให้ขึ้นภาษีทุกชนิดเท่าตัว
วานนี้ (19 พ.ย.) สื่อมวลชนลาว ทั้งของรัฐและเอกชนหลายสำนัก รายงานตรงกันว่า ในการประชุมใหญ่ผู้แทนองค์คณะพรรค กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาแนวทางสนับสนุนการใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV)ทั่วประเทศ โดยที่ประชุมเห็นว่า นโยบายและกลไกตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ และมีข้อจำกัดที่จะจูงใจให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ดังนั้น จึงได้เตรียมข้อเสนอหลายประการให้รัฐบาลพิจารณา ได้แก่
- ลดภาษีเงินได้สำหรับธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า จาก 20% เหลือ 10%
- ตั้งแต่ปี 2565-2568 ให้กำหนดสัดส่วนโควต้านำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้สูงสุด 70% อีก 30% ต้องเป็นการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า จากนั้นในปี 2569-2573 ให้ลดการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเหลือ 50% และตั้งแต่ปี 2574 เป็นต้นไป กำหนดให้รถยนต์ที่จะนำเข้ามา ต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 50%
- ให้รัฐบาลสร้างกลไกควบคุมราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไม่ให้สูงจนเกินไป
- ส่งเสริมให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศ เข้ามาเปิดศูนย์บริการในลาว
ในทางกลับกัน ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางเพิ่มรายได้เข้าสู่งบประมาณของรัฐ เพื่อทดแทนรายรับที่เสียไปจากการสนับสนุนให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเสนอให้
- ขึ้นภาษีน้ำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน จากเดิม 35-40% เป็น 70%
- เพิ่มภาษีการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันแต่ละประเภทขึ้นมาอีกประเภทละ 5%
- ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน จากเดิม 10% เป็น 20%
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาโครงสร้างค่าไฟฟ้า สำหรับประชาชนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และต้องมีการชาร์จไฟอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
-ค่าไฟฟ้าสำหรับชาร์จไฟตามบ้าน หรือที่อยู่อาศัย ให้คิด 955 กีบต่อกิโลวัตต์/ชั่วโมง(kWh) ในฤดูแล้ง(ประมาณ 2.73 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 350 กีบ = 1 บาท) และ 677 กีบ/kWh ในฤดูฝน คิดเป็นค่าไฟเฉลี่ยประมาณ 816.5 กีบ/kWh(2.33 บาท)
-ค่าชาร์จไฟแบบเร็วตามสถานีชาร์จ สำหรับการชาร์จต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ให้คิด 1,826 กีบ/kWh ในฤดูแล้ง และ 1,539 กีบ/kWh ในฤดูฝน คิดเป็นค่าไฟเฉลี่ย 1,682.5 กีบ/kWh(4.81 บาท)
ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา รัฐบาลลาวได้ประกาศเจตนารมย์สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และสนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ลาวสามารถผลิตขึ้นได้เอง โดยเริ่มจากการจัดสัมนาใหญ่ในหัวข้อ Laos National Electric Vehicle Summit 2019 ขึ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายนปีเดียวกัน
วันที่ 4 ตุลาคมปีนี้ พันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีของลาว ได้ประกาศนโยบายเปิดเสรีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าทุกด้าน ทั้งการนำเข้า จัดจำหน่าย การตั้งโรงงานประกอบ ตลอดจน การตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า อู่ซ่อมบำรุงฯลฯ
จันโท มีลัดตะนะไซ หัวหน้าสถานีค้นคว้าพลังงานทดแทน กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ บอกว่า ด้วยนโยบายนี้ รัฐบาลกำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเหลือ 0% คิดภาษีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพียง 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% รวมถึงไม่จำกัดโควต้าการนำเข้า
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม กระทรวงการเงิน ได้มีหนังสือเชิญบริษัท ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการที่มีอยู่แล้วในลาว ให้ร่วมเสนอข้อมูลรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้นำเข้ามาแล้ว หรือมีแผนจะนำเข้ามา ต่อรัฐบาลซึ่งกำลังจะเปลี่ยนรถยนต์ที่จะใช้ในหน่วยงานรัฐ ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในอนาคต ตามโยบายที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม