เอเอฟพี - กองทัพพม่าระดมยิงปืนใหญ่ใส่เมืองทางตะวันตกของประเทศ ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้เผาทำลายบ้านเรือนราษฎรหลายสิบหลัง รวมถึงสำนักงานขององค์กรการกุศล Save the Children ตามการเปิดเผยของพยานและรายงานของสื่อท้องถิ่น
ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อเดือน ก.พ. ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 คน จากการปราบปรามผู้เห็นต่าง ตามการระบุของกลุ่มสังเกตการณ์ท้องถิ่น
กองกำลังป้องกันตนเองผุดขึ้นทั่วประเทศเพื่อตอบโต้รัฐบาลทหาร ที่ทำให้การโจมตีและการตอบโต้ทวีความรุนแรงขึ้น
กองกำลังของรัฐบาลทหารระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่เมืองตานตะลางในรัฐชิน หลังเผชิญหน้ากับกองกำลังป้องกันตนเองในพื้นที่ ตามการรายงานของสำนักข่าว Khit Thit และ Chindwin
ชาวเมืองตานตะลางที่หลบหนีออกจากเมืองหลังจากการปะทะกันก่อนหน้านี้กล่าวกับเอเอฟพีว่า การระดมยิงของฝ่ายกองทัพเริ่มขึ้นหลังสมาชิกของกองกำลังท้องถิ่นจับตัวทหารหนึ่งนาย
“ไม่นานหลังจากนั้น ปืนใหญ่ก็ถูกยิง” ชาวเมืองกล่าว และเสริมว่า เขาได้ยินว่ามีบ้านถูกทำลายราว 80-100 หลัง
“เราไม่รู้ว่าบ้านไฟไหม้หลังถูกปืนใหญ่ยิงถล่มหรือว่าพวกเขาจุดไฟเผาบ้าน” ชาวเมืองคนเดิม ระบุ
ภาพที่เผยแพร่ในสื่อท้องถิ่นเผยให้เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าหลายจุดจากเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขา แต่เอเอฟพีไม่สามารถตรวจสอบรายงานจากพื้นที่ห่างไกลได้อย่างอิสระ
“จนถึงตอนนี้คาดว่ามีอาคารอย่างน้อย 100 หลัง ถูกไฟไหม้เสียหาย มีรายงานว่าเพลิงไหม้เกิดขึ้นหลังจากการใช้อาวุธหนัก ไฟยังคงลุกลามไปทั่วเมืองและไม่มีหน่วยดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิงไฟไหม้” องค์กรการกุศล Save the Children ระบุในคำแถลง
ชาวเมืองตานตะลางส่วนใหญ่หลบหนีออกจากเมืองระหว่างการปะทะกันเมื่อเดือนก่อน และหลายคนหลบหนีข้ามแดนไปยังฝั่งอินเดีย
Save the Children ระบุว่า เมืองถูกทิ้งร้างเป็นส่วนใหญ่ตอนที่การระดมยิงเกิดขึ้น และพนักงานขององค์กรได้ออกจากพื้นที่แล้วหลังจากเกิดเหตุความรุนแรงก่อนหน้านี้
สหประชาชาติระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า วิตกกังวลว่าอาจเกิดหายนะด้านสิทธิมนุษยชนจากรายงานว่ามีทหารหลายพันนายรวมตัวกันในพื้นที่ตอนเหนือและตะวันตกของประเทศ
ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา กองกำลังฝ่ายรัฐบาลทหารใช้ปืนใหญ่เข้ากำจัดกลุ่มติดอาวุธจากเมืองมินดัท ที่อยู่ทางตอนใต้ของรัฐชิน และต่อมาได้ตัดการจ่ายน้ำประปา ตามการระบุของโฆษกกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่น.