เอเอฟพี - สื่อเวียดนามรายงานว่า ทางการได้สั่งล็อกดาวน์นครโฮจิมินห์ ที่มีประชากรราว 9 ล้านคน เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศจนถึงขณะนี้
มาตรการล็อกดาวน์จะเริ่มมีผลตั้งแต่เช้าวันศุกร์ (9) ที่ชาวเมืองจะต้องอยู่กับบ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากเมืองกลายเป็นศูนย์กลางการระบาด และมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันถึง 8,000 ราย ในระหว่างการระบาดระลอกล่าสุดที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย. จากที่ก่อนหน้านี้ ทั้งประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันไม่ถึง 3,000 ราย
เหวียน แถ่ง ฝ่อง นายกเทศมนตรีนครโฮจิมินห์กล่าวว่า เมืองกำลังเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมการระบาดของโควิด-19
“เพื่อควบคุมการระบาดให้เร็ว นครโฮจิมินห์ตัดสินใจที่จะใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น” เหวียน แถ่ง ฝ่อง กล่าวขณะประกาศล็อกดาวน์
ด้านรองนายกรัฐมนตรีหวู ดึ๊ก ดาม กล่าวกับเจ้าหน้าที่นครโฮจิมินห์ว่า ถึงเวลาที่จะต้องยอมรับการเสียสละเพื่อให้แน่ใจว่ามีการพัฒนาในระยะยาว
สื่อของรัฐรายงานว่า ผู้อยู่อาศัยในเมืองจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อซื้ออาหารและยาเท่านั้น
ทั้งนี้ มีเมืองอย่างน้อย 10 เมืองได้ระงับเที่ยวบินเชื่อมต่อกับนครโฮจิมินห์ และมีรายงานว่าประชาชนได้แห่ซื้อสินค้ากักตุนเพื่อเตรียมรับการล็อกดาวน์ ขณะที่ตลาดค้าส่งใหญ่ 3 แห่งปิดทำการ
เวียดนามเคยเป็นต้นแบบการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสจากการติดตามผู้สัมผัสโรคและกักกันโรคอย่างเข้มงวด แต่เวลานี้ต้องพยายามอย่างหนักในการจัดหาและฉีดวัคซีนให้ประชาชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนไม่ถึง 4 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดเกือบ 100 ล้านคน
ทางการตั้งเป้าที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปี 2565 ขณะเดียวกัน ก็กำลังพัฒนาวัคซีนของตัวเองและสั่งวัคซีนหลายล้านโดสจากต่างประเทศ
สหรัฐฯ ระบุเมื่อวันอังคาร (6) ว่า ได้ส่งวัคซีนโมเดอร์นาให้เวียดนาม 2 ล้านโดส ที่เป็นส่วนหนึ่งของ 80 ล้านโดสแรก ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้คำมั่นว่าจะจัดสรรวัคซีนไปทั่วโลก.