MGR Onilne - หลังสถาปนาได้ 2 ปี กองทัพอากาศลาวกำลังจะมีกองบัญชาการเป็นของตนเอง โดยได้ Frontier Services Group จากจีนมาช่วยสร้าง ถือเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนจากที่ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียช่วยเสริมเขี้ยวเล็บให้มาตลอด
วันนี้ (3 ก.ค.) ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารกองบัญชาการทหารอากาศ สปป.ลาว โดยผู้ร่วมในพิธี ประกอบด้วย พล.ต.วงคำ พมมะกอน รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ พลจัตวาคำเหล็ก แสงพะจัน ผู้บัญชาการทหารอากาศ พ.อ.พิเศษหลีปิ้ง ที่ปรึกษาทูตฝ่ายป้องกันประเทศ สถานทูตจีนประจำลาว สุ้ย จี้หมิง กรรมการบริหาร บริษัท Frontier Services Group (FSG) พร้อมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พลจัตวาคำเหล็ก แสงพะจัน ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า การก่อสร้างอาคารกองบัญชาการ ถือเป็นจุดเริ่มต้นการขยายตัวของกองทัพอากาศลาว ตามแนวทางที่พรรคและรัฐบาลกำหนดไว้ เพื่อต้องการปรับรูปแบบการทำงานให้ทันสมัยในภารกิจปกป้องน่านฟ้าของประเทศ อาคารสำนักงานแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งความช่วยเหลือที่ลาวได้รับจากจีน โดยได้เซ็นสัญญาให้ FSG มาช่วยดูแลการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563
FSG เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง มีสำนักงานใหญ่อยู่ในฮ่องกงและปักกิ่ง ประกอบธุรกิจหลากหลาย ตั้งแต่รักษาความปลอดภัย การให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน โลจิสติกส์ ประกันภัย และก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เน้นในประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนา
สุ้ย จี้หมิง กรรมการบริหาร FSG กล่าวว่า FSG เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในลาวตั้งแต่ปี 2560 รับงานส่วนใหญ่จากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐ โดยเฉพาะกระทรวงป้องกันประเทศ
กองบัญชาการทหารอากาศลาว ใช้ชื่อย่อว่า “กบอ.” เพิ่งถูกสถาปนาขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ตามดำรัส ฉบับที่ 19/นย. ลงวันที่ 30 มกราคม 2562 ในสมัยของทองลุน สีสุลิด เป็นนายกรัฐมนตรี โดยขึ้นตรงกับกระทรวงป้องกันประเทศ และแต่งตั้งให้ พลจัตวาคำเหล็ก แสงพะจัน เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศคนแรก
เดิมเหล่ารบทางอากาศของลาวใช้ชื่อว่ากรมทหารอากาศ ถูกจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2513 ขึ้นกับกองทัพประชาชนลาว โดยมีฐานบินอยู่ 4 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่สนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สนามบินล่องแจ้ง แขวงไซสมบูน สนามบินปากเซ แขวงจำปาสัก และสนามบินทุ่งไหหิน แขวงเชียงขวาง
สำหรับสนามบินทุ่งไหหินเดิมเป็นสนามบินทหาร แต่ในปี 2541 ได้ถูกเพิ่มภารกิจด้านพลเรือนเข้ามาด้วย รัฐบาลลาวจึงได้มอบให้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมการบินพลเรือน กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ต่อมา วันที่ 12 มิถุนายน 2563 กรมการบินพลเรือนได้คืนความรับผิดชอบสนามบินทุ่งไหหินให้กลับมาอยู่ในการดูแลของกองบัญชาการกองทัพอากาศ
หลังจัดตั้งกองบัญชาการทหารอากาศได้ 6 เดือน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 ในวาระเฉลิมฉลองใหญ่ครบรอบ 71 ปีกองทัพประชาชนลาว กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้ให้ความช่วยเหลือโดยมอบศูนย์ฝึกทหารอากาศ และอุปกรณ์ทางเทคนิคทหารให้แก่กองบัญชาการทหารอากาศลาว ที่สนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์
ต่อมา หลังรับมอบความดูแลสนามบินทุ่งไหหินคืนมาจากกรมการบินพลเรือนได้ 2 เดือน กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้สร้างห้องทดลอง ศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องบินรบให้แก่กองทัพอากาศลาว ที่สนามบินทุ่งไหหิน โดยได้ทำพิธีรับมอบกันที่สนามบินทุ่งไหหิน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563
ข้อมูลจากวิกิพีเดียภาษาไทย ระบุว่า กองบัญชาการทหารอากาศลาว มีเครื่องบินประจำการอยู่ประมาณ 50 ลำ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินของรัสเซีย โดยในปี 2562 ลาวได้สั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ YAK-130 จากรัสเซียมาประจำการเพิ่ม จำนวน 10 ลำ
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ได้มีพิธีรับมอบสนามบิน ศูนย์ควบคุมและบำรุงรักษาอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ระหว่างบริษัทแอลซี ขาเข้า-ขาออก จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างกับบริษัทสกาย โทละคม (โครงการสื่อสารเพื่อภาครัฐ ในสังกัดกระทรวงป้องกันประเทศ) เจ้าของโครงการ
กิน้อย วิวงพัน ประธานบริษัทแอลซี ขาเข้า-ขาออก กล่าวว่า สนามบิน Drone แห่งนี้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 30 เมษายน 2563 ใช้เวลาสร้าง 5 เดือน งบประมาณก่อสร้าง 301,927 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในประกอบด้วย
- รันเวย์ยาว 245 เมตร กว้าง 11.6 เมตร
- ศาลาเตรียมบิน ขนาด 6x10 เมตร
- อาคารปฏิบัติการ ห้องอาหาร อาคารเรือนนอนป้องกัน ขนาด 6x18 เมตร และป้อมยามขนาด 2x2 เมตร
- ถนน-ทางเข้าสนามบิน
- กำแพงรอบค่ายยาว 1,364 เมตร สูง 2 เมตร
- ตาข่ายไฟฟ้า 22 kv ยาวรวม 450 เมตร กับตาข่ายไฟฟ้า 0.4 kv ยาว 600 เมตร
สนามบิน Drone แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนากองทัพลาวให้มีความเข้มแข็งและทันสมัย มีภารกิจเพื่อฝึกฝนเจ้าหน้าที่ในการติดต่อสื่อสาร บังคับ ควบคุม Drone ให้ปฏิบัติการตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในยามที่เกิดภัยพิบัติ การสืบข่าว ค้นหาวัตถุ คน รวมถึงการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวทั้งกลางวันและกลางคืน.