MGR Online - กรณีศึกษารูปแบบการชำระหนี้ของหน่วยงานรัฐในลาว โอนสิทธิที่ดินชานเมืองให้เอกชนไปพัฒนา หวังขายนำเงินมาใช้คืนอีกหน่วยงานหนึ่ง
วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีพิธีลงนามในสัญญามอบ-โอนสิทธิการใช้ที่ดิน ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ ธนาคารแห่ง สปป.ลาว (แบงก์ชาติลาว) และกลุ่มบริษัทดวงจะเลิน พัดทะนาก่อส้าง จำกัด โดยพิธีจัดขึ้นที่โรงแรมแลนด์มาร์ค แม่โขง ริเวอร์ไซด์ ผู้ร่วมลงนามในสัญญา ประกอบด้วย คำวง ทิบพะวง รองผู้ว่าการแบงก์ชาติลาว อาดสะพังทอง สีพันดอน รองเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ และคำผาย สีลาชา ประธานกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ
เมื่อปี 2551 องค์การปกครองนครหลวงเวียงจันทน์ มีโครงการสร้างถนนเลี่ยงเมือง ระยะทาง 20.3 กิโลเมตร จากถนน 13 ใต้ บริเวณสี่แยกดงโดก ไปยังคลังสินค้าท่านาแล้ง ถนนท่าเดื่อ เพื่อเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถนนสายนี้ถูกใช้เป็นวงแหวนเชื่อมถนนสาย 13 เหนือและใต้ โดยไม่ต้องผ่านเข้าตัวนครหลวงเวียงจันทน์ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 450 ปีของการตั้งนครหลวงเวียงจันทน์ จึงตั้งชื่อถนนสายนี้ว่าถนน 450 ปี โดยได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และได้กู้เงินจากแบงก์ชาติลาวนำมาใช้เป็นทุนในโครงการนี้ ซึ่งในแผนชำระหนี้ นครหลวงเวียงจันทน์ จะนำที่ดินตลอดแนว 2 ฝั่งถนน ลึกฝั่งละ 50 เมตร ออกขาย เพื่อนำเงินมาใช้คืนแก่แบงก์ชาติลาว
อย่างไรก็ตาม แม้ถนนได้สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ที่ดิน 2 ฝั่งถนนสายนี้สามารถขายออกไปได้เพียง 20% โดยขายได้เฉพาะที่ดินแปลงที่สวย กับแปลงที่อยู่ติดกับตัวเมือง ส่วนที่ดินส่วนที่เหลือซึ่งขายไม่ออก เป็นแปลงที่ไกลจากตัวเมือง รูปที่ดินไม่สวย เป็นท้องทุ่ง หรือหนองน้ำ ไฟฟ้าและประปายังเข้าไปไม่ถึง ที่สำคัญคือราคาที่กำหนดไว้เพื่อขายสูงกว่าราคาตลาด
แบงก์ชาติลาวได้ประชุมร่วมกับนครหลวงเวียงจันทน์หลายครั้ง เพื่อหาวิธีการแก้ไขหนี้สินก้อนนี้ ในที่สุดก็ได้เห็นพ้องกันว่า จะโอนสิทธิการใช้ที่ดินส่วนที่ยังขายไม่ได้ให้กลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ นำไปพัฒนา เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่แบงก์ชาติลาว โดยกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ ต้องลงทุนมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ พัฒนาระบบสาธารณูปโภค สร้างถนน ซอยแยกไปสู่ที่ดิน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ที่ดินเหล่านี้ โดยกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ มีเวลา 5 ปี เพื่อขายที่ดินให้หมด และนำเงินมาชำระคืนแก่แบงก์ชาติลาว
ดวงจะเลินฯ เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งของลาวที่เติบโตขึ้นจากการได้รับสัมปทานจากรัฐ
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมปีที่แล้ว บริษัทดวงจะเลิน พัดทะนา กะสิกำ ในเครือกลุ่มดวงจะเลินฯ ได้รับสัมปทานทำสวนกล้วยจากแขวงบ่อลิคำไซ บนเนื้อที่ 150 เฮกตาร์ (937 ไร่) ในเมืองบ่อลิคัน
ก่อนหน้านั้น วันที่ 4 มิถุนายน 2561 กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ได้เซ็น MOU ให้บริษัทดวงจะเลิน พัดทะนาก่อสร้าง เป็นผู้ศึกษาความเป็นไปได้โครงการสร้างทางด่วนสายใต้ (เวียงจันทน์-จำปาสัก) ช่วงจากเมืองท่าแขก (แขวงคำม่วน) ไปยังแขวงสะหวันนะเขต ระยะทาง 117 กิโลเมตร
ช่วงที่ สปป.ลาว เริ่มต้นพัฒนาประเทศเมื่อหลายสิบปีก่อน ด้วยความที่ยังขาดแคลนเงินงบประมาณ การก่อสร้าง วางระบบสาธารณูปโภคในหลายพื้นที่ของลาว ต้องใช้วิธีให้เอกชนมารับสัมปทาน โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนและออกเงินก่อสร้างไปก่อน และรัฐจะชดใช้คืนให้ในรูปแบบต่างๆ ภายหลัง
วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีพิธีลงนามในสัญญามอบ-โอนสิทธิการใช้ที่ดิน ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ ธนาคารแห่ง สปป.ลาว (แบงก์ชาติลาว) และกลุ่มบริษัทดวงจะเลิน พัดทะนาก่อส้าง จำกัด โดยพิธีจัดขึ้นที่โรงแรมแลนด์มาร์ค แม่โขง ริเวอร์ไซด์ ผู้ร่วมลงนามในสัญญา ประกอบด้วย คำวง ทิบพะวง รองผู้ว่าการแบงก์ชาติลาว อาดสะพังทอง สีพันดอน รองเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ และคำผาย สีลาชา ประธานกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ
เมื่อปี 2551 องค์การปกครองนครหลวงเวียงจันทน์ มีโครงการสร้างถนนเลี่ยงเมือง ระยะทาง 20.3 กิโลเมตร จากถนน 13 ใต้ บริเวณสี่แยกดงโดก ไปยังคลังสินค้าท่านาแล้ง ถนนท่าเดื่อ เพื่อเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถนนสายนี้ถูกใช้เป็นวงแหวนเชื่อมถนนสาย 13 เหนือและใต้ โดยไม่ต้องผ่านเข้าตัวนครหลวงเวียงจันทน์ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 450 ปีของการตั้งนครหลวงเวียงจันทน์ จึงตั้งชื่อถนนสายนี้ว่าถนน 450 ปี โดยได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และได้กู้เงินจากแบงก์ชาติลาวนำมาใช้เป็นทุนในโครงการนี้ ซึ่งในแผนชำระหนี้ นครหลวงเวียงจันทน์ จะนำที่ดินตลอดแนว 2 ฝั่งถนน ลึกฝั่งละ 50 เมตร ออกขาย เพื่อนำเงินมาใช้คืนแก่แบงก์ชาติลาว
อย่างไรก็ตาม แม้ถนนได้สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ที่ดิน 2 ฝั่งถนนสายนี้สามารถขายออกไปได้เพียง 20% โดยขายได้เฉพาะที่ดินแปลงที่สวย กับแปลงที่อยู่ติดกับตัวเมือง ส่วนที่ดินส่วนที่เหลือซึ่งขายไม่ออก เป็นแปลงที่ไกลจากตัวเมือง รูปที่ดินไม่สวย เป็นท้องทุ่ง หรือหนองน้ำ ไฟฟ้าและประปายังเข้าไปไม่ถึง ที่สำคัญคือราคาที่กำหนดไว้เพื่อขายสูงกว่าราคาตลาด
แบงก์ชาติลาวได้ประชุมร่วมกับนครหลวงเวียงจันทน์หลายครั้ง เพื่อหาวิธีการแก้ไขหนี้สินก้อนนี้ ในที่สุดก็ได้เห็นพ้องกันว่า จะโอนสิทธิการใช้ที่ดินส่วนที่ยังขายไม่ได้ให้กลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ นำไปพัฒนา เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่แบงก์ชาติลาว โดยกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ ต้องลงทุนมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ พัฒนาระบบสาธารณูปโภค สร้างถนน ซอยแยกไปสู่ที่ดิน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ที่ดินเหล่านี้ โดยกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ มีเวลา 5 ปี เพื่อขายที่ดินให้หมด และนำเงินมาชำระคืนแก่แบงก์ชาติลาว
ดวงจะเลินฯ เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งของลาวที่เติบโตขึ้นจากการได้รับสัมปทานจากรัฐ
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมปีที่แล้ว บริษัทดวงจะเลิน พัดทะนา กะสิกำ ในเครือกลุ่มดวงจะเลินฯ ได้รับสัมปทานทำสวนกล้วยจากแขวงบ่อลิคำไซ บนเนื้อที่ 150 เฮกตาร์ (937 ไร่) ในเมืองบ่อลิคัน
ก่อนหน้านั้น วันที่ 4 มิถุนายน 2561 กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ได้เซ็น MOU ให้บริษัทดวงจะเลิน พัดทะนาก่อสร้าง เป็นผู้ศึกษาความเป็นไปได้โครงการสร้างทางด่วนสายใต้ (เวียงจันทน์-จำปาสัก) ช่วงจากเมืองท่าแขก (แขวงคำม่วน) ไปยังแขวงสะหวันนะเขต ระยะทาง 117 กิโลเมตร
ช่วงที่ สปป.ลาว เริ่มต้นพัฒนาประเทศเมื่อหลายสิบปีก่อน ด้วยความที่ยังขาดแคลนเงินงบประมาณ การก่อสร้าง วางระบบสาธารณูปโภคในหลายพื้นที่ของลาว ต้องใช้วิธีให้เอกชนมารับสัมปทาน โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนและออกเงินก่อสร้างไปก่อน และรัฐจะชดใช้คืนให้ในรูปแบบต่างๆ ภายหลัง