รอยเตอร์ - เวียดนามจะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูงถึง 133,300 ล้านดอลลาร์ สำหรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าและโครงข่ายสายส่งใหม่ในช่วง 10 ปีข้างหน้า เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ของประเทศ ตามการเปิดเผยของรัฐบาลเวียดนามวันนี้ (28)
จากบประมาณที่ตั้งไว้ทั้งหมดดังกล่าว ส่วนหนึ่งราว 96,000 ล้านดอลลาร์จะถูกใช้สำหรับสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ และอีกประมาณ 37,300 ล้านดอลลาร์ จะใช้สำหรับการขยายโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ ตามคำแถลงของรัฐบาลที่ประกาศบนเว็บไซต์
ความต้องการพลังงานไฟฟ้าของเวียดนามคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.6% ในช่วงระหว่างปี 2564-2568 และเพิ่มขึ้น 7.2% ในระหว่างปี 2569-2573 โดยรัฐบาลเวียดนามระบุว่า การลงทุนจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งเป็น 138 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 จากที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 56 กิกะวัตต์
กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากำลังร่างแผนพัฒนาพลังงานฉบับใหม่เพื่อยื่นเสนอให้รัฐบาลอนุมัติในเดือนหน้า โดยร่างแผนเบื้องต้นระบุว่า เวียดนามจะเพิ่มสัดส่วนของพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ และการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติเหลว ขณะเดียวกัน ก็จะพยายามลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากถ่านหิน
จากปัญหาขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ทำให้เวียดนามกำลังกลายเป็นประเทศที่พึ่งพาพลังงานนำเข้ามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หลังเขื่อนไฟฟ้าผลิตเกือบเต็มขีดความสามารถ และการผลิตน้ำมันและก๊าซของประเทศถึงจุดสูงสุด ส่วนแผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ถูกยกเลิกไปในปี 2559
รัฐบาลเวียดนาม กล่าวว่า ประเทศจะต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว 1.2 ล้านตันต่อปี และนำเข้าถ่านหิน 35.1 ล้านตันสำหรับโรงไฟฟ้าของประเทศภายในปี 2568 และปริมาณจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.5 ล้านตัน และ 45 ล้านตัน ตามลำดับภายในปี 2573.