xs
xsm
sm
md
lg

นครวัดเงียบเหงา กัมพูชาหวังชาวจีนช่วยฟื้นการท่องเที่ยวประเทศหลังพ้นโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซินหวา - กัมพูชากำลังหวังให้นักท่องเที่ยวชาวจีนช่วยผลักดันการเติบโตการท่องเที่ยวของประเทศเมื่อการระบาดของโรคโควิด-19 สามารถควบคุมได้แล้ว นายทอง คูน รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ระบุ

นายทอง คูน กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการท่องเที่ยวของประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เขามองในแง่บวกว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศเมื่อการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สิ้นสุดลง

รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของเขมรยังกล่าวอีกว่า ด้วยความช่วยเหลือและความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศในการต่อสู้กับโควิด-19 ไม่เพียงแต่ทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีแน่นแฟ้นขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้รับการยกย่องชื่นชมจากทั้งสองประเทศ

“การเยือนกรุงปักกิ่งของนายกรัฐมนตรีฮุนเซนเมื่อเดือน ก.พ. ในช่วงที่เชื้อไวรัสระบาดนั้น ได้รับการยกย่องอย่างมากจากชาวจีน และจากการเยือนดังกล่าว ผมเชื่อว่าชาวจีนจำนวนมากจะใช้วันหยุดของพวกเขาในกัมพูชาเมื่อวิกฤติโควิด-19 สิ้นสุดลง” นายทอง คูน กล่าวกับสำนักข่าวซินหวา

จีนกลายเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใหญ่ที่สุดที่เยือนกัมพูชาตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชา ที่มีมูลค่าราว 4,920 ล้านดอลลาร์ กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาด และข้อมูลการท่องเที่ยวได้เผยให้เห็นว่ากัมพูชาเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเดือน มี.ค. รวมทั้งสิ้น 223,400 คน ลดลงถึง 65% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ส่วนจำนวนผู้โดยสารทางอากาศลดลงมากกว่า 90% ในเดือน เม.ย. ตามข้อมูลจากสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนกัมพูชา ขณะที่ยอดจำหน่ายบัตรเข้าชมอุทยานโบราณสถานเมืองพระนคร ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ลดลงถึง 99% ในเดือน เม.ย.

ภาพเปรียบเทียบนักท่องเที่ยวที่ปราสาทนครวัดในสองช่วงเวลา ภาพบนถ่ายเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2562 ภาพล่างถ่ายเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2563. -- AFP.
โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่า “ก่อนโควิด-19 ระบาด อุทยานโบราณสถานเมืองพระนครใน จ.เสียมราฐ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยือนสูงถึง 9,000 คนต่อวัน แต่เวลานี้มีเพียง 20 คนต่อวัน และคนเหล่านั้นเป็นชาวต่างชาติที่อาศัยและทำงานอยู่ในกัมพูชา”

เพื่อให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวชาวจีนหลังพ้นวิกฤติโควิด-19 กัมพูชาจะส่งเสริมยุทธศาสตร์ “China Ready” และกระตุ้นให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและปลายทางท่องเที่ยวต่างๆ ดำเนินการมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน

กัมพูชาไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติจาก 6 ประเทศ คือ สหรัฐฯ อิตาลี เยอรมนี สเปน ฝรั่งเศส และอิหร่าน เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. และได้กำหนดข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศกับชาวต่างชาติทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19

ชาย สิวลิน ประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชา (CATA) กล่าวว่า บริษัทท่องเที่ยวและเดินทางทั้งหมดทั่วประเทศต้องระงับธุรกิจของพวกเขาในช่วงการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อพนักงานมากกว่า 30,000 คน

“แม้กัมพูชาไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่มาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว แต่ก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียงไม่กี่คนที่เดินทางมากัมพูชา เพราะพวกเขายังคงหวาดกลัวไวรัสและข้อจำกัดด้านการเดินทางของเรายังคงมีผลบังคับใช้อยู่” ประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าว

อย่างไรก็ตาม เขาเห็นพ้องว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักต่อการเติบโตของการท่องเที่ยวในกัมพูชาหลังการระบาด บริษัททัวร์ต่างๆ ควรเปิดแพกเกจท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนเมื่อการระบาดของโควิด-19 สิ้นสุดลง

“เราจะออกแบบกลยุทธ์ของเราเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวหลังโควิด-19 และกลยุทธ์นี้จะมุ่งเน้นที่สุขอนามัย สุขภาพและการเว้นระยะห่างทางสังคมบนรถโดยสารและร้านอาหาร” ประธานสมาคม กล่าว

แคลส์ เจนดา ประธานสมาคมโรงแรมกัมพูชา ที่เป็นตัวแทนของโรงแรมกว่า 250 แห่งในกัมพูชา กล่าวว่า โรงแรมเกือบทั้งหมดต้องระงับธุรกิจบางส่วนหรือทั้งหมดเนื่องจากไวรัส ส่วนโรงแรม 2 แห่งที่เธอเป็นเจ้าของก็ต้องปิดดำเนินการชั่วคราวเช่นกันเพราะไม่มีลูกค้า

“การท่องเที่ยวของเราขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ แต่เพราะการระบาด ทำให้ชาวต่างชาติเดินทางมากัมพูชาน้อยมากในตอนนี้ ส่งผลให้โรงแรมส่วนใหญ่ต้องปิดกิจการชั่วคราว เรากำลังเจรจากับเจ้าของที่เพื่อลดค่าเช่าให้กิจการสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ได้” แคลส์ เจนดา กล่าว

ประธานสมาคมโรงแรมกัมพูชา ระบุว่า สำหรับโรงแรมที่ยังเปิดในช่วงระบาด ทางสมาคมได้แนะนำให้พวกเขาปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยและสุขภาพอย่างเคร่งครัด ทั้งการวัดอุณหภูมิลูกค้าเป็นประจำ จัดหาเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้ลูกค้า และการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น.




กำลังโหลดความคิดเห็น