xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำเวียดนามลั่นเศรษฐกิจประเทศต้องโตกว่านี้ หลังไอเอ็มเอฟคาดการณ์ที่ 2.7%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนาม กล่าวว่า เศรษฐกิจประเทศในปีนี้ ต้องเติบโตเร็วกว่าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศกลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังการล็อกดาวน์เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

หลังสิ้นสุดการล็อกดาวน์ระหว่างวันที่ 1-23 เม.ย. และการระบาดของโรคลดลง เวียดนามได้เริ่มยกเลิกมาตรการข้อจำกัดต่างๆ เมื่อปลายเดือนก่อน โดยทางการรายงานว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 271 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสนี้

ในไตรมาสแรกของปี 2563 เศรษฐกิจเติบโตในอัตราช้าที่สุดที่ 3.8% ด้วยเป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจ

“เราต้องไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจเติบโตช้า มีเพียงการเติบโตเท่านั้นที่สามารถสร้างงาน ลดความยากจน และรับประกันความมั่นคงทางสังคม” คำแถลงของผู้นำเวียดนามระบุบนเว็บไซต์ของรัฐบาล

“ไอเอ็มเอฟคาดการณ์การเติบโตของเวียดนามที่ 2.7% ในปีนี้ แม้จะเป็นอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เราต้องเติบโตเร็วกว่านี้” นายกฯ ฟุ้ก กล่าว

ก่อนหน้านี้ เวียดนามกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2563 ที่ 6.8% แต่ผู้นำเวียดนามกล่าวกับคณะรัฐมนตรีถึงการพิจารณาปรับเป้าหมายในปี 2563 หากมีความจำเป็น

นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก กล่าวว่า ประเทศจำเป็นต้องใช้จ่ายงบประมาณราว 700 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 29,890 ล้านดอลลาร์) กับโครงการโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาต่างๆ ในปีนี้ และช่วยเหลือกิจการท้องถิ่นให้กลับมาดำเนินกิจการของพวกเขา

ส่วนอัตราเงินเฟ้องต้องรักษาระดับให้ต่ำกว่า 4% ในปีนี้ ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ก่อนหน้า ผู้นำเวียดนามกล่าวย้ำ.
กำลังโหลดความคิดเห็น