เอเอฟพี - กระทรวงการต่างประเทศของสโลวะเกีย เผยว่า ได้ขับนักการทูตชาวเวียดนามออกจากประเทศจากเหตุการณ์การลักพาตัวผู้บริหารกิจการน้ำมันของเวียดนามในกรุงเบอร์ลินเมื่อปี 2560 ที่ถูกพาตัวกลับกรุงฮานอยอย่างลับๆ ผ่านทางสโลวะเกีย
กระทรวงได้แจ้งต่อเอกอัครราชทูตเวียดนามในวันที่ 5 ก.พ. ว่า หนึ่งในนักการทูตของเขาเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาและต้องออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง
“สโลวะเกียตัดสินใจที่จะดำเนินการขั้นตอนที่สำคัญนี้ตามการตัดสินใจสุดท้ายของศาลอุทธรณ์เยอรมนีเกี่ยวกับการลักพาตัวชาวเวียดนาม” คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสโลวะเกีย ระบุ
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เวียดนามได้ประณามการขับไล่นักการทูตที่ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งว่าไม่เป็นไปตามวิถีทางของมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างสองประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศสโลวะเกียได้กล่าวกับเอเอฟพีในปี 2561 ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสโลวะเกียและเวียดนาม ‘จะถูกแช่แข็ง’ เว้นแต่ว่าเวียดนามจะอธิบายถึงการลักพาตัวนายจีง ซวน แถ่ง พลเมืองเวียดนาม จากเยอรมนีในเดือน ก.ค.2560
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ศาลยุติธรรมกลางของเยอรมนียืนตามคำพิพากษาที่มีต่อนายลอง เอ็น เอช พลเมืองเวียดนาม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลักพาตัวนายจีง ซวน แถ่ง
นายจีง ซวน แถ่ง สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ระดับสูงที่เผชิญต่อข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน ได้พยายามแสวงหาที่ลี้ภัยทางการเมืองในเยอรมนี หลังการลักพาตัว แถ่งถูกนำตัวกลับไปยังกรุงฮานอยผ่านสโลวะเกีย และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตจากข้อหาคอร์รัปชันในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าบริษัทปิโตรเวียดนาม คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
ในเดือน ส.ค.2561 หนังสือพิมพ์รายวัน Dennik N ในสโลวะเกีย ได้ตีพิมพ์คำให้การของนายตำรวจชาวสโลวักที่อ้างว่า “บุคคลที่ดูเหมือนเมาและมีรอยฟกช้ำ” ได้เข้าร่วมกับคณะผู้แทนของทางการเวียดนามที่สนามบินบราติสลาวาในปี 2560 และถูกลากขึ้นเครื่องบินรัฐบาลสโลวัก
ในตอนนั้นเจ้าหน้าที่สโลวะเกียปฏิเสธว่ามีส่วนรู้เห็นในการลักพาตัว และกระทรวงมหาดไทยอธิบายว่า บทความของหนังสือพิมพ์ Dennik N เป็นเรื่องจินตนาการปั้นแต่ง
รัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนามมุ่งเป้าไปที่บรรดานายธนาคาร นักธุรกิจ และนักการเมือง ที่ถูกกล่าวหาว่าบริหารจัดการผิดพลาด หลังจากรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะปราบปรามการทุจริต และการปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้ได้เห็นคนจำนวนมากถูกตัดสินจำคุกในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้.