รอยเตอร์ - กระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม ระบุว่า รัฐบาลต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนนี้เพื่อช่วยธุรกิจต่างๆ รับมือกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คาดว่าส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไม่บรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ 6.8% ในปีนี้
การระบาดของเชื้อไวรัสได้คร่าผู้คนไปแล้วมากกว่า 1,100 คน ในประเทศจีน ที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และวานนี้ (11) ทางการกรุงฮานอยเพิ่งยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสรวมเป็นทั้งสิ้น 15 ราย
“การระบาดทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง และกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และด้วยเวียดนามมีเศรษฐกิจแบบเปิดกว้างและมีพรมแดนติดกับจีน ดังนั้นผลกระทบต่อประเทศจะมีนัยสำคัญ” กระทรวงวางแผนและการลงทุนระบุในคำแถลงที่ยื่นต่อรัฐบาล
คำแถลงยังระบุว่า ธนาคารกลางเวียดนามควรเสนอสินเชื่อสนับสนุนให้แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเลื่อนเวลาการชำระคืนเงินกู้ นอกจากนั้น กระทรวงการคลังควรพิจารณาปรับลดอัตราภาษีและชะลอการชำระภาษี และการชำระค่าเช่าที่ดิน สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ
คำแถลงยังเรียกร้องว่า มาตรการต่างๆ ควรยื่นเสนอต่อรัฐบาลเพื่อดำเนินการอนุมัติภายในเดือน ก.พ.นี้
อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดของเวียดนาม ประกอบด้วย การท่องเที่ยว การขนส่ง อิเล็กทรอนิกส์ การเกษตร และประกันภัย กระทรวงวางแผนและการลงทุน ระบุ
การเติบโตของจีดีพีของประเทศปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 6.25% หากการระบาดของเชื้อไวรัสสามารถควบคุมได้ภายในไตรมาสแรก และคาดว่าจะขยายตัวที่ 5.96% หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในไตรมาสที่ 2
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสยังส่งผลกระทบต่อสายการบินต่างๆ ของประเทศ ที่ทำให้สูญเสียรายได้ไปราว 10 ล้านล้านด่ง (430 ล้านดอลลาร์) เนื่องจากการระงับการเดินทางระหว่างเวียดนามและจีน ตามการระบุของรัฐบาล และคาดว่าจะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปราว 5,900-7,700 ล้านดอลลาร์ ใน 3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังคงเลี่ยงการเดินทาง.