รอยเตอร์ - บริษัทวินกรุ๊ป เจเอสซี กลุ่มบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เผยว่า บริษัทได้ยกเลิกแผนที่จะเปิดสายการบิน แต่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตภาคอุตสาหกรรมแทน
เมื่อปีก่อนบริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตเปิดสายการบินในปี 2563 แต่ยังไม่มีการสั่งซื้อเครื่องบินแต่อย่างใด เวลานี้บริษัทได้แจ้งต่อกระทรวงคมนาคมว่า จะถอนตัวออกจากภาคบริการขนส่งทางอากาศ
“เราจำเป็นต้องมุ่งเน้นที่ทรัพยากรของเราในการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตภาคอุตสาหกรรม ดังนั้น เราตัดสินใจที่จะถอนตัว” เหวียน เวียด กว่าง ผู้บริหารระดับสูงของวินกรุ๊ป ระบุในคำแถลง
กว่าง กล่าวว่า ตลาดการบินของเวียดนามกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ตลาดแห่งนี้มีสายการบินอยู่แล้วหลายราย และการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่จะเปิดตัวสายการบินขึ้นอีกสายหนึ่งนั้น จะนำไปสู่ภาวะล้นตลาด
วินกรุ๊ป ที่เคยเป็นกลุ่มธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดของเวียดนามที่ 16,000 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทได้จัดจำหน่ายทั้งรถยนต์ โทรทัศน์ สมาร์ทโฟน และกำลังมองหาโอกาสที่จะเข้าไปยังภาคส่วนปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ตลาดการบินของเวียดนามเติบโตด้วยอัตราตัวเลขสองหลัก ซึ่งดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ เช่น สายการบินแบมบูของบริษัทเอฟแอลซีกรุ๊ป เจเอสซี ได้เปิดให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินไปเมื่อปีก่อน และกลายเป็นสายการบินลำดับที่ 5 ของประเทศ ส่วนบริษัทอื่นๆ เช่น บริษัทเทียนมีงกรุ๊ป และบริษัทเวียดทราเวล ก็มีเป้าหมายที่จะเปิดสายการบินในปีนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม วินกรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทจะยังดำเนินการฝึกนักบินที่สถาบัน VinAviation ของบริษัทต่อไป.