เอเอฟพี - อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในงานเทศกาลลอยโคมตะซองดาย (Tazaungdaing) ของเมืองตองยี เมืองเอกของรัฐชาน คือ ชิงช้าสวรรค์พลังงานมนุษย์ที่ตั้งอยู่ในลานจัดแสดง ซึ่งบรรดาผู้ชมงานเทศกาลมักรุมล้อมเฝ้าดูการทำงานเสี่ยงตายของทีมควบคุมชิงช้าสวรรค์ท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดเสียว
อ่อง เส่ง เพียว อายุ 22 ปี หนึ่งในทีมงานวัยหนุ่มที่ควบคุมชิงช้าสวรรค์ให้หมุนด้วยแรงคน ปีนป่ายห้อยโหนไปตามโครงสร้างสูง 20 เมตร อย่างคล่องแคล่วท้าทายแรงโน้มถ่วง ที่เป็นผลจากการฝึกปรือจนเชี่ยวชาญมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
ท่ามกลางเสียงดนตรีเร้าใจที่ดังกระหึ่มจากลานแสดง การทำงานของทีมงานวัยหนุ่มเหล่านี้ดึงดูดความสนใจจากกลุ่มผู้ชมงานเทศกาล ชิงช้าสวรรค์เริ่มหมุนและเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนกระโดดออกจากกระเช้าก่อนที่พวกเขาจะชนกับพื้น หลังใช้น้ำหนักของร่างกายเป็นตัวส่งแรงให้วงล้อชิงช้าสวรรค์หมุน ส่วนคนนั่งกระเช้าบ้างก็ส่งเสียงร้องเชียร์บ้างกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น อ่อง เส่ง เพียว ใช้แรงกายถ่วงน้ำหนักกระเช้าจนหลังเกือบติดพื้น
“ผมเริ่มทำงานนี้ตอนที่ผมอายุ 9 ขวบ พ่อแม่ของผมไม่ชอบที่ผมทำอะไรแบบนี้ แต่ผมแอบพวกเขาทำ” อ่อง กล่าวกับเอเอฟพีระหว่างหยุดพัก และยอมรับว่ามันเป็นงานที่เสี่ยงอันตราย
อ่องเป็นหนึ่งในชายหนุ่มหลายร้อยคนที่ทำงานกับชิงช้าสวรรค์พลังงานมนุษย์ตามงานวัดงานเทศกาลต่างๆ ทั่วประเทศ
เป็นเวลา 9 เดือนต่อปี ที่ทีมของเขาทั้งหมด 15 คน ออกตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ และทำงานโดยไม่มีวันหยุด พวกเขามีรายได้ราว 70-100 ดอลลาร์ต่อเดือนก่อนหยุดพักในช่วงฤดูฝน
“พวกเรามีจิตวิญญาณของการทำงานเป็นทีม แต่เวลาที่สาวๆ นั่งอยู่แล้วเราเหวี่ยงกระเช้า สาวๆ จะกลัวกันมาก” อ่องกล่าวพร้อมรอยยิ้ม และยอมรับว่าบางครั้งพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่ลูกค้าผู้หญิง แต่ยืนยันว่าทีมงานให้เกียรติผู้หญิงที่นั่งชิงช้าสวรรค์เสมอเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสุขกลับไป
อ่อง กล่าวว่า เขาไม่เคยเสียใจเรื่องทิ้งการเรียนมาทำงานนี้ แต่ก็ยอมรับว่าบางครั้งเขารู้สึกคิดถึงครอบครัว อย่างไรก็ตามอ่องระบุว่าชีวิตตามปกติคงจะไม่เหมาะกับเขา และเขาตั้งใจที่จะทำงานกับชิงช้าสวรรค์พลังงานมนุษย์เช่นนี้ไปจนกว่าเขาจะทำงานนี้ไม่ได้.
