เอเอฟพี - บอลลูนลมร้อนพับลู่ตกลงกลายเป็นกองไฟใหญ่ ทำให้ผู้ชมซึ่งอยู่เบื้องล่างแตกกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง ในการเริ่มต้นเทศกาลลอยโคมที่สวยงามและสุดอันตรายของพม่า
แม้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ทุกปีมักมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนใน ‘เทศกาลตาซองดาย’ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเมืองตองยี เมืองเอกของรัฐชาน อันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดฤดูฝน
การเฉลิมฉลองเกี่ยวพันกับพุทธศาสนาที่ประชาชนจะปล่อยโคมลอยเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเทศกาลที่จัดขึ้นในเมืองตองยีแห่งนี้ดึงดูดผู้คนมาร่วมงานได้นับหมื่นคนในแต่ละวัน
“งานนี้กลายเป็นเทศกาลของคนทั้งประเทศไปแล้ว” ผู้ตัดสินการแข่งขันวัย 54 ปี กล่าว ระหว่างตรวจสอบบอลลูน
หลังทำงานออกแบบบอลลูนกันอยู่นานหลายเดือน ทีมที่ร่วมแข่งขันจะปล่อยบอลลูนที่ทำขึ้นเองรวมแล้วกว่า 200 ลูก ขึ้นสู่ท้องฟ้าตลอดการจัดงานที่ยาวนานถึง 10 วัน
บอลลูนเหล่านี้ถูกถ่วงน้ำหนักไว้ด้วยโครงที่ติดดอกไม้ไฟหรือเทียนนับร้อยๆ ชิ้น และหากทีมคำนวณผิดพลาดเกี่ยวกับเวลาในการจุดดอกไม้ไฟ ก็อาจเป็นผลให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงขึ้นได้
เต่ง ซอ หนึ่งในคณะผู้ตัดสินบอลลูนนาน 13 ปี กล่าวว่า เกณฑ์การให้คะแนนมาจากความสวยงาม การทำงานเป็นทีม ความสูงและระยะเวลาที่บอลลูนลอยอยู่กลางอากาศ
ในคืนวันจันทร์ (4) การแข่งขันปล่อยบอลลูนลมร้อนเริ่มขึ้นหลังการแสดงฟ้อนรำของกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐชาน และการปล่อยโคมลอยแบบดั้งเดิมหลายร้อยลูก
“ฉันมางานนี้ทุกปีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก” ทูซาร์ ลิน อายุ 26 ปี กล่าว หลังประกายไฟจากพลุที่กลุ่มของเธอสร้างสรรค์ขึ้นแตกกระจายเป็นสายลงสู่ผู้ชมด้านล่าง
ทีมแข่งขันส่วนใหญ่จะมีทั้งสมาชิกที่เป็นผู้หญิงและผู้ชายคละกัน โดยสมาชิกผู้ชายมักจะดูแลจัดการเรื่องดินปืนและใช้คบเพลิงจุดไฟตะเกียง
และในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จุดปล่อยบอลลูนมีรั้วกั้น ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ที่หวังจะดูการปล่อยบอลลูนแบบใกล้ชิดติดขอบอย่างที่เคยในปีก่อนๆ ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน
“มันเปลี่ยนบรรยากาศไปจริงๆ คุณไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้เหมือนแต่ก่อน” ผู้ชมวัย 31 ปี กล่าวอย่างเศร้าสร้อย
อุบัติเหตุที่ถึงแก่ชีวิตครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2557 หลังบอลลูนร่วงใส่กลุ่มผู้ชมเบื้องล่างทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน.