MGR ออนไลน์ -- ออกจากบ้านไปรบตั้งแต่ปี 2520 นายฝ่าม วัน บี่ง ( Phạm Văn Bình) เพิ่งจะกลับไปพบหน้าค่าตาคนในครอบครัว ที่ จ.ห่า ตี๋ง (Hà Tĩnh) ทางภาคกลางตอนบนของประเทศเมื่อวันสองวันมานี้ ท่ามกลางความยินดีปรีดาของญาติๆ กับเพื่อนๆ ในวัยหนุ่ม -- "ลุงบี่ง" ซึ่งครั้งหนึ่งทางการได้ประกาศให้เป็นวีรชนในสมรภูมิกัมพูชามาแล้ว กลับถึงบ้านอย่างคนปรกติมีสุขภาพดีอีกด้วย เพียงแต่มีอาการหลงๆลืมๆ จดจำอดีตของตนไม่ได้ทั้งหมด
พ่อแม่ถึงแก่กรรมหลายปีมาแล้ว พี่ชายกับเพื่อนๆ ร่วมวัยเดียวกัน และเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว รวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ไปรอต้อนรับนายบี่่ง ในวันพุธ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่บ้านของนายฝ่าม จุง เหียว (Phạm Trung Hiếu) วัย 37 ปีซึ่งเป็นหลานชายของเขา ในหมู่บ้านหมีทวน (Mỹ Thuận) คอมมูนกี่เซิน (Kỳ Sơn) อ.กี่แอง (Kỳ Anh) ในบรรยากาศแห่งความยินดีปรีดา
ครอบครัวนี้มีลูกชาย 2 คน นายบี่งเป็นคนเล็ก ปี 2520 สมัครเป็นทหาร ได้เข้าสังกัดกรมทหารราบ 18 กองพล 325 กองบัญชาการกองทัพเขต 2 จ.กว๋างจิ (Quảng Trị) -- ปีเดียวกันนั้นหน่วยสังกัดของเขา ย้ายไปตั้งที่ชายแดน อ.ห่าเตียน (Hà Tiên) จ.เกียนซยาง (Kiên Giang) -- นั่นเป็นช่วงที่ระบอบเขมรแดงเหิมเกริมหนัก ส่งกำลังรุกข้ามพรมแดนเวียดนาม เข้าไปสังหารผู้คน เผาหมู่บ้านวอดวายแห่งแล้วแห่งเล่า
เดือน ธ.ค.2520 นายบี่งกับกำลังพลจำนวนหนึ่ง ถูกส่งเข้าไปในดินแดนกัมพูชา เข้าร่วมกับกองกำลังทหารเขต 8 และ เขต 9 ใน จ.กัมปงธม ในช่วงปีที่เขมรอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นฝ่ายต่อต้านระบอบเขมรแดง (นำโดยฮุนเซน) เริ่มปฏิบัติการทางทหาร
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟอง (ผู้บุกเบิก) วันที่ 21 ก.พ.2522 หน่วยของนายบี่งถูกกองโจรเขมรแดงซุ่มโจมตีในเขต อ.บาราย (Baray) จ.กัมปงธม -- นั่นคือ 1 เดือนเศษหลังเวียดนามส่งกองทัพข้ามพรมแดนเข้าขับไล่ระบอบโปลโป้ท เอียง สารี เคียว สมพร ออกจากกรุงพนมเปญ -- ตัวเขาเองบาดเจ็บ แต่ชาวบ้านในย่านนั้นเข้าช่วยเหลือนำออกจากป่าไป และ ขาดการติดต่อกับต้นสังกัดตั้งแต่นั้น
ไม่มีใครพบเห็นหรือได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับนายบี่งอีกเลย ซึ่งในเวลาต่อมาหลังสงครามในกัมพูชายุติลง กองทัพประชาชนเวียดนามได้ยกย่องให้นายบี่งเป็นวีรชนแห่งชาติคนหนึ่ง เชื่อว่าเขาได้เสียชีวิตลงจากการถูกซุมโจมตีครั้งนั้น ทั้งแจ้งเรื่องนี้ให้ครอบครัวได้ทราบอย่างเป็นทางการ
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ นายบี่งไม่สามารถจดจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองได้ทั้งหมด มิหนำซ้ำเอกสาร หลักฐานอะไรต่างๆ เกี่ยวกับตัวเขาเองก็สูญหายไปสิ้น -- หนุ่มนักรบชาวเวียดนามกลายเป็นคนพลัดถิ่น เริ่มต้นชีวิตในดินแดนประเทศเพื่อนบ้าน ทำงานสารพัด -- เป็นช่างปูน เป็นคนงานรับจ้างทำงานในสวนยางพารา เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้
ปี 2547 นายบี่งแต่งงานกับหญิงสาวกลุ่มชาติพันธุ์ในกัมพูชา และอาศัยอยู่ในหมู่บ้านของชนเผ่า ที่ชายแดน จ.กัมปงธม
นางฝ่าม ถิ เหลย (Phạm Thị Lợi ) หลานสาววัย 36 ปี -- น้องสาวของนายเหียว -- ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์แถ่งเนียนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ตัวเธอเองได้ร่วมกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ออกค้นหา "คุณอาบี่ง" ตามสุสานทหารอาสาสมัครเวียดนามที่เสียชีวิตในกัมพูชาแห่งแล้วแห่งเล่า หวังว่าชื่อของคุณอาอาจจะหล่นหายก็ได้ แต่แล้วก็ไม่เคยเจอ ทำให้ครอบครัวต้องตั้งแท่นบูชาขึ้นที่บ้านตามประเพณี
.
นางเหลยกล่าวว่า กลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา นายเหวียน เญิต ยวุ๋ง (Nguyễn Nhật Dũng) ซึ่งเป็นคนรู้จักของครอบครัวอาศัยอยู่ในอำเภอเดียวกัน เข้าไปทำงานเป็นผู้จัดการสวนยางในกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแจ้งว่า พบนายบี่งยังมีชีวิตอยู่พร้อมลงรูปภาพกับหมายเลขโทรศัพท์สาหรับติดต่อ
หลังตระเตรียมเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ ราว 1 สัปดาห์ นางเหลย กับนายเหียว ได้เดินทางเข้ากัมพูชาด้วยความตื่นเต้น เพื่อนำคุณอากลับบ้าน -- "หลังค้นหามาเป็นเวลาหลายสิบปี ไม่มีอะไรจะตื่นเต้นเท่ากับได้ทราบข่าวนี้" นางเหลยบอกแถ่งเนียน
ทันทีที่พบหน้ากัน หลานทั้งสองคนโผเข้าโอบกอดคุณอาที่เคยเห็นกันแต่ในภาพถ่าย ร่ำไห้ด้วยความยินดี และได้ทราบว่าตอนนี้คุณอาบี่งมีลูกสาววัย 10 ขวบอยู่ 1 คน อีกไม่นานทั้งภรรยากับ "หลานสาว" ที่กำลังน่ารักจะได้เดินทางตามไปสมทบในเวียดนาม
นายเหวียน แอง หง็อก (Nguyễn Anh Ngọc) ประธานคณะกรรมการประชาชนคอมมูนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ราวครึ่งเดือนหลังทราบข่าวว่า "พลทหารบี่ง" ยังมีชีวิตอยู่ในกัมพูชา ทางการท้องถิ่นได้ติดต่อประสานงานไปยังกองบัญชาการทหารชายแดน จ.ห่าตี๋ง ขอเอกสารจำเป็นต่างๆ เพื่อไปรับตัวกลับประเทศ
"นายบี่งกลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง และทางการในพื้นที่ได้สั่งคณะเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจ" นายหง็อกกล่าว
ตามรายงานของซเวินจี๊ออนไลน์ -- ยังมีเรื่องคล้ายๆกันนี้อีกหนึ่งกรณีใน จ.ห่าตี๋ง กล่าวคือเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา นายจีง แทง บี่ง (Trịnh Thanh Bình) วัย 62 ปี ชาว อ.เฮือง เค (Hương Khê) ซึ่งกองทัพเคยประกาศยกย่องให้เป็นวีรชนในสมรภูมิกัมพูชาเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว ได้เดินทางกลับบ้านด้วยตัวเอง ท่ามกลางความงุนงงของทุกฝ่าย
ตามรายงานของเวียดนามเอ็กซ์เพรส เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว นายเหวียนวันเก๊ ( Nguyễn Văn Kế) อายุ 50 เศษ ชาว อ.กว่างเสือง (Quảng Xương) จ.แทงฮว้า (Thanh Hóa) ได้กลับจากสมรภูมิกัมพูชาอีกคน หลังหลบหนีการคุมขังของเขมรแดงได้ และ พลัดหลงรอนแรมเข้าประเทศไทย ประกอบอาชีพเก็บขวด เก็บของเก่าขายเลี้ยงชีพมานาน 4 ทศวรรษ
สำหรับกรณีนี้คนที่ดีใจที่สุดคือ นางเหวียนถิเฮ่ย (Trịnh Thị Hậy) คุณแม่วัย 82 ที่รอคอยลูกชายมาชั่วชีวิต ถึงแม้ว่าจะเคยได้รับมรณบัตรจาก กระทรวงกลาโหมและกองทัพประชาชน ยืนยันการเป็น "วีรชน" ของนายเก๊มานานกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม.
