MGR ออนไลน์ -- กองทัพอากาศเวียดนามได้ทดลองยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยานแบบ R-77 จากเครื่องบินรบ Su-30MKV เป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้ภายนอกได้ทราบเป็นครั้งแรกเช่นกันเกี่ยวกับ "จรวด" ชนิดนี้ สื่อของทางการรายงานเรื่องราวทั้งหมดโดยอ้างวิดีโอชิ้นหนึ่ง ที่เผยแพร่ผ่านโทรทัศน์กองทัพประชาชนไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยไม่ได้แสดงคลิปดังกล่าว มีเพียงภาพนิ่งที่ "แค็ป" ไว้เท่านั้่น
ภาพนิ่งจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับการยิง อวป.นำวิถี R-77 ยังคงแพร่สะพัด ผ่านเว็บไซต์สื่อภาษาเวียดนามหลายสำนัก ในช่วงข้ามวันที่ผ่านมา
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า กองทัพอากาศเวียดนามได้จัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีหลายรุ่น เพื่อใช้เป็นอาวุธมาตรฐานสำหรับฝูงบิน Su-30MKV ที่ทยอยจัดซื้อจัดหาจากรัสเซียตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา และ เคยทำยิงทดสอบบางรุ่นมาก่อนหน้านี้ รวมทั้ง 2 รุ่นคือ R-73 กับ R-27 แต่เป็นครั้งแรกสำหรับ R-77
นี่คือระบบ อวป.นำวิถีต่อสู้อากาศยานอากาศสู่อากาศ (Air-to-Air Anti-Aircraft Missile) ที่เป็นอาวุธมาตรฐานสำหรับเครื่องบินรบอเนกประสงค์หลายรุ่น ของกองทัพอากาศรัสเซีย รวมทั้ง Su-27/30, Su-35, Mig-29, Mig-31 กับ Mig-35 -- ผ่านการพัฒนายกระดับมาหลายขั้นตอนนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 เป็นต้นมา
| "วิดีโอสั้นทั้งสองชิ้นต่อไปนี้ แสดงการบิน กับ การขึ้นลงของ Su-30MKV กองทัพอากาศเวียดนาม ไม่มีฉากการฝึกซ้อมยิงจรวด R-77 แต่อย่างใด" |
.
.
สื่อทางการรัสเซียรายงานก่อนหน้านี้ว่า บริษัทผู้ผลิตกำลังพัฒนา R-77 อีกรุ่นหนึ่งสำหรับติดตั้งบน Su-57 เครื่องบินรบ "ล่องหน" แบบแรกของค่ายนี้โดยเฉพาะ
เว็บไซต์ข่าวกลาโหมหลายสำนักรายงานว่า นี่คือ อวป.นำวิถีฯ ที่มีคุณสมบัติทุกอย่างเทียบเท่า AIM-120 "อัมราม" (AMRAAM) ของค่ายสหรัฐ ที่ติดตั้งบนเครื่องบินรบหลายรุ่น รวมทั้ง F-16 ของกองทัพอากาศไทยด้วย
ตามข้อมูลของผู้ผลิตนั้น R-73 เป็น อวป.นำวิถีระยะสั้น คือ ออกแบบมาสำหรับยิงเป้าหมายในระยะ 30-40 กม. ขณะที่ R-27 มีระยะยิงไกล 70-130 กม. ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ผลิตออกมา การมีประจำการหลากหลายรุ่นทำให้นักบินขับไล่มีทางเลือกมากขึ้นในการต่อกรกับฝ่ายอริ และ ยังช่วยประหยัดงบประมาณอย่างมหาศาล เนื่องจากอาวุธรุ่นต่างๆ มีราคาแตกต่างกัน
| "วิดีโอสั้นข้างล่างนี้เป็นเหตุการณ์เมื่อต้นปี ฝ่ายกบฏฮูตีในเยเมนดัดแปลงจรวด R-27 สำหรับ Mig-29 ของรัฐบาลให้เป็น อวป.นำวิถีพื้นสู่อากาศ ยิงเครื่องบินรบ F-15 ของซาอุดิอาระเบียไปตกไป 1 ลำ" |
.
.
สำหรับ R-77 มีระยะยิงไกลออกไปเป็น 90-175 กม. -- เป็นระยะยิงหวังผลหลังเส้นขอบฟ้า ที่มองไม่เห็นด้วยสายตา จึงต้องมีระบบนำวิถีที่ทันสมัยกว่า ซับซ้อนยิ่งกว่า -- แต่ อวป.ต่อสู้อากาศยานทั้ง 3 รุ่นนี้มีความเร็วสูง คือ 2.5 มัคสำหรับ R-73 และ 4 มัคสำหรับ R-27, R-77 ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจจับและยากในการยิงสกัดกั้น/ทำลาย
ตามรายงานของสื่้อเวียดนาม การยิงทดสอบ "จรวด" R-77 ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกซ้อมปรกติ ของกองบินน้อย 935 ฐานทัพอากาศเบียนหว่า (Biên Hòa) จ.โด่งนาย (Đồng Nai) ทางตอนเหนือนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฝูงบิน Su-30MKV อีกแห่งหนึ่ง
.
รายงานของโทรทัศน์กองทัพประชาชนได้ทำให้โลกภายนอกได้รับรู้เป็นครั้งแรกว่า นอกจากมีจรวด R-73 กับ R-27 ประจำการมาแต่ดั้งเดิมแล้ว ก็ยังมี R-77 อีกรุ่นหนึ่งด้วย -- และ เป็นที่แน่นอนว่าเป็น R-77E หรือ รุ่นส่งออก แต่สื่อของกองทัพไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเวอร์ชั่นใด ระยะยิงไกลแค่ไหน รวมทั้งไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับจำนวนที่จัดหา
สำหรับจรวด R-77 หรือ RVV-AE เป็นที่รู้จักกันในโลกตะวันตกในชื่อ AA-12 "แอดเดอร์" (Adder) -- และ AA-11 "อาร์เชอร์" (Archer) สำหรับ R-73 กับ AA-10 "อลาโม" (Alamo) สำหรับ R-27
อวป.นำวิถีต่อสู้อากาศยานในซีรีส์ R มีใช้แพร่หลายในกลุ่มประเทศ หรือ กองทัพที่ใช้เครื่องบินรบโซเวียต/รัสเซีย รวมทั้งมาเลเซียกับอินโดนีเซียในย่านนี้่ -- สื่อรัสเซี่ยรายงานในเดือน เม.ย.2555 เกี่ยวกับการจัดหาอาวุธล็อตใหญ่ ของมาเลเซียรวมมูลค่า 35 ล้านดอลลาร์ -- แหล่งข่าววงในกล่าวในภายหลังว่า ในนั้นเป็น R-77 จำนวน 150 ลูก กับอาวุธอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง.
